วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568
29 ต.ค. 2568 15:42 | 79 view
@pracha
ขุนคลัง เตรียมลุย คนละครึ่งพลัสเฟส 2 ให้สิทธิคนตกหล่นก่อน ปลื้มเฟสแรกคึกคักครึ่งวันใช้แล้ว กว่า 500 ล.
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยืนยันว่ารัฐบาลกําลังเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โดยเบื้องต้นอาจให้สิทธิแก่ประชาชนที่ตกหล่นและลงทะเบียนไม่ทันในรอบแรกก่อน เพื่อให้เข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุน พร้อมย้ําว่าจะใช้งบประมาณเดิม ไม่สร้างหนี้ใหม่ และพิจารณาความเหมาะสมด้านจํานวนสิทธิ งบประมาณ และวินัยการคลังควบคู่ไปด้วย
ส่วนเงินคงเหลือจากเฟสแรก ที่ประชาชนไม่ได้ใช้ตามกําหนด อาจนําไปใช้ในการ เพิ่มทักษะผู้ประกอบการ แทน เช่น การสอนการขายออนไลน์ การใช้ AI เพิ่มยอดขาย และลดต้นทุน
นายเอกนิติกล่าวว่า สําหรับบรรยากาศวันแรกของโครงการคนละครึ่งพลัส เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนและร้านค้าตอบรับล้นหลาม โดยณ เวลา 11.00 น. มียอดใช้จ่ายรวมกว่า 350 ล้านบาท เพิ่มจากชั่วโมงแรกที่ 35 ล้านบาท มีร้านค้าร่วมโครงการกว่า 200,000 ร้าน และประชาชนใช้สิทธิกว่า 1.6 ล้านคน ปัจจุบันมีร้านค้าลงทะเบียนประมาณ 640,000 ร้านค้า (ร้านค้าที่ Active ประมาณแสนกว่าร้าน) สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้จนถึง 19 ธันวาคม
นอกจากนี้ ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ จะเปิดให้แพลตฟอร์มและบริการเดลิเวอรี่นําร้านค้าเข้าสู่ระบบ ขายออนไลน์ และมีการหารือกับธนาคารออมสิน เพื่อสนับสนุนพ่อค้าแม่ค้าขนาดเล็กในการกู้เงินผ่าน MyMo ลดปัญหาการกู้เงินนอกระบบ

นายเอกนิติยังกล่าวว่า ระบบดิจิทัลของโครงการช่วยให้เห็นข้อมูลการใช้จ่ายทันที และช่วยตรวจสอบผู้ที่รับแลกเงินสดหรือขายสิทธิ โดยกระทรวงการคลังร่วมกับตํารวจจะดําเนินการปราบปรามมิจฉาชีพที่หาผลประโยชน์จากโครงการ ตามมอบหมายของนายกรัฐมนตรี
Advertisement
สําหรับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ รัฐบาลมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2568 จะเติบโตได้ดีกว่าที่คาดไว้เดิมที่ 0.3% ได้แก่
– มาตรการท่องเที่ยวเมืองหลัก ลดหย่อนภาษี 1 เท่า สูงสุด 10,000 บาท หากใช้ e-tax invoice ได้เพิ่มเป็น 20,000 บาท
– มาตรการท่องเที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า สูงสุด 30,000 บาท
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะเร่งเบิกงบประมาณสัมมนาในไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณให้ใช้จ่ายเร็วขึ้น และอนุญาตให้โรงแรม ร้านค้า และที่พัก ปรับปรุงกิจการแล้วนํามาหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังเปิดให้ใช้คนละครึ่งเป็นวันแรกตั้งแต่เวลา 06.00 น. มีประชาชนให้ความสนใจใช้จ่ายผ่านโครงการฯ เป็นจํานวนมาก โดย ณ เวลา 12.30 น. มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการฯ สําเร็จแล้วกว่า 2.49 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 501.11 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจํานวน 252.40 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจํานวน 248.71 ล้านบาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. ผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยในแต่ละวันไม่จําเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวย้ําว่า ร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ยังคงสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยร้านค้าที่ประสงค์จะขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) สามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการฯ ได้ 1 ราย ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายเพื่อซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น. ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
ทั้งนี้ ขอเน้นย้ําว่า ประชาชนจะต้องเริ่มใช้ครั้งแรกภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ และสําหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ จะไม่มีการนําส่งข้อมูลรายได้ของร้านค้าให้แก่กรมสรรพากรแต่อย่างใด
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังร่วมกับกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (Central Investigation Bureau: CIB) แถลงเปิดปฏิบัติการทลายกลโกงร้านค้าที่โฆษณาเชิญชวนประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการฯ ให้นําวงเงินตามสิทธิมาแลกเป็นเงินสด โดยมีส่วนต่างที่ต้องหักให้ร้านค้า ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โดยได้จับกุมตัวผู้ต้องหาจํานวน 3 รายเพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไป

พร้อมทั้งเน้นกําชับเตือนประชาชนและร้านค้าห้ามซื้อขายสิทธิหรือใช้สิทธิโครงการฯ โดยไม่มีการซื้อขายจริง และโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนให้แลกวงเงินสิทธิโครงการฯ เป็นเงินสด เนื่องจากเป็นการนําข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ) ทั้งนี้ หากมีการแลกวงเงินสิทธิโครงการฯ เป็นเงินสดสําเร็จ จะถือเป็นความผิดทางอาญาฐานร่วมกันฉ้อโกง ทั้งผู้แลกและผู้รับแลก (ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ) ตลอดจนต้องคืนเงินให้แก่รัฐบาลทั้งจํานวนที่เคยได้รับไป รวมถึงอาจถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐบาลอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม
1. เว็บไซต์โครงการฯ: ติดตามรายละเอียดโครงการฯ และข้อมูลข่าวสารได้ทาง www. คนละครึ่งพลัส .com
2. ศูนย์ช่วยเหลือสําหรับประชาชน:
2.1 ติดต่อสอบถาม โทร. 0 2111 1122 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
2.2 ตรวจสอบผลการลงทะเบียนหรือวงเงินคงเหลือ โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
3. ศูนย์ช่วยเหลือสําหรับร้านค้า:
3.1 ติดต่อเกี่ยวกับรายการรับเงินภาครัฐ และการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
3.2 ตรวจสอบสถานะลงทะเบียนร้านค้า โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
4. สอบถามข้อมูลโครงการฯ: สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 08-5842-7102, 08-5842-7103, 08-5842-7104, 08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107, 08-5842-7108, 08-5842-7109 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ข่าว
29 ต.ค. 2568 16:30 46 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 16:20 71 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 16:01 59 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 15:57 63 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 15:53 57 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 15:49 70 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 15:42 80 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 15:37 60 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 15:33 99 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 15:25 71 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 14:59 75 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 14:59 72 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 14:47 93 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 14:47 78 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 13:58 94 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 13:55 88 views