เลขาธิการ กกต. เผยรายละเอียดกระบวนการทําประชามติและเลือกตั้งทั่วไป จัดพร้อมกันได้  นอกจากนี้ประชามติไม่มีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า แต่ลงนอกเขตได้ในวันเดียวกัน

สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดกิจกรรมแถลงข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมสําหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และการออกเสียงประชามติ โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นผู้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน ว่า  การเลือกตั้งและการทําประชามติที่จะจัดทําร่วมกัน ถือเป็นครั้งแรกสําหรับประชาชนชาวไทย โดยเหตุของการทําประชามติต้องมาจากหน่วยงานอื่น เช่น คณะรัฐมนตรี หรือรัฐสภา ที่ส่งเรื่องมาให้ กกต. ดําเนินการ หากเป็นการทําแบบปลายเปิดจะไม่มีปัญหา กกต. ยืนยันว่าการเลือกตั้งมีกระบวนการและกรอบเวลาที่ชัดเจน แต่การทําประชามติตามกฎหมายล่าสุดต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน ซึ่งอาจมีความเหลื่อมล้ํากับกรอบเวลาเลือกตั้ง แต่หากบริหารจัดการดีก็สามารถจัดในวันเดียวกันได้

เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเรื่องของสภาที่ต้องจัดการให้แล้วเสร็จ ก่อนส่งให้ กกต. จัดดําเนินการภายในกรอบเวลาไม่ช้ากว่า 60 วัน และไม่น้อยกว่า 90 วัน ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่สภากําลังพิจารณาและจะต้องสรุปจํานวนคําถามที่จะทําประชามติ จึงยังไม่สามารถระบุได้เต็มปากว่าจะทําได้ตามกรอบเวลาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในทางบริหารจัดการ กกต. มีความพร้อมเสมอที่จะทําประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งกฎหมายการจัดทําประชามติฉบับล่าสุดที่ประกาศใช้สามารถจัดทําประชามติในหน่วยเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไปได้ ต่างจากกฎหมายฉบับเดิมที่แม้จะให้จัดในวันเดียวกันแต่ต้องเป็นคนละหน่วยเลือกตั้ง

นายแสวง กล่าวต่อว่า สําหรับรายละเอียดของประชามติ จะมีการส่งจดหมายเอกสารถึงบ้าน พร้อมรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียง รายละเอียดขั้นตอนการทําประชามติ และข้อมูลคําถามของประชามติ กรณีการทําประชามตินั้น อยู่ที่รัฐสภาว่าจะส่งคําถามแรกมาที่ กกต.เมื่อใด หากส่งช้าก็จะกินระยะเวลา 75 วัน และทําให้การออกเสียงประชามติและการเลือกตั้ง สส.ไม่สามารถจัดในวันเดียวกันได้

"สิ่งสําคัญคือการทําประชามติจะต้องไม่มีการชี้นํา ผู้จัดทําเอกสารต้องให้ข้อมูลครบถ้วนเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ โดยจะเปิดให้แสดงความคิดเห็นในสื่อต่างๆ หรือเวทีต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ทําให้แตกต่างจากหลักการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม การพูดแสดงความคิดเห็นอาจปะปนกันระหว่างการทําประชามติกับการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องมีการควบคุมให้ชัดเจน" นายแสวง กล่าว 

ด้านงบประมาณในการดําเนินการ  เลขาธิการ กกต. ชี้แจงว่า มีการใช้จ่ายตามกฎหมาย โดย 90% จ่ายไปที่หน่วย เป็นเงินที่ออกแบบตามกฎหมาย ทั้งค่าวัสดุอุปกรณ์ บัตรเลือกตั้ง และค่าแรงบุคลากรประจําหน่วย สําหรับการนับคะแนนประชามติ จะไม่มีการลงคะแนนล่วงหน้า หากเป็นในส่วนต่างประเทศ จะให้นับคะแนนจากประเทศนั้นๆ เลย เพื่อลดขั้นตอนการส่งบัตรกลับมายังประเทศไทย แต่บัตรเลือกตั้ง สส. ยังคงเป็นแบบเดิมที่ต้องส่งกลับมาประเทศไทย

นายแสวงได้สรุปความแตกต่างในประเด็นสําคัญว่า การเลือกตั้ง สส. สามารถลงคะแนนล่วงหน้าได้ และลงนอกเขตได้ตามกระบวนการเดิมที่เคยมีมา แต่การทําประชามตินั้น ไม่มีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า แต่สามารถลงนอกเขตได้ เพียงแต่ต้องลงในวันเดียวกันกับการออกเสียงประชามติ