วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568
5 พ.ย. 2568 15:28 | 75 view
@pracha
4 สมาคมตํารวจลุกปกป้ององค์กร! ปัดเป็นกระบอกเสียง "ผบ.ตร." ซัด "สุรเชษฐ์–อัจฉริยะ" ปล่อยเฟคนิวส์ใส่ร้ายตํารวจเป็นแก๊งอาชญากรรมใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลั่นอย่าพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ตร.) สมาคมตํารวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตํารวจ ชมรมพนักงานสอบสวน และชมรมข้าราชการตํารวจบํานาญ นําโดย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รวมตัวเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกร้องให้ดําเนินการทางวินัยและอาญากับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม กรณีออกมาเคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า สํานักงานตํารวจแห่งชาติเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีตํารวจเข้าไปเกี่ยวข้องหลายร้อยนาย ซึ่งสร้างความเสียหายกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างร้ายแรง
1.ขอให้ท่าน ผบ.ตร. เร่งรัดดําเนินการทั้งทางวินัยและอาญาต่อผู้กระทําผิดอย่างจริงจังและรวดเร็ว ซึ่งให้ดําเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการข้อเท็จจริง โดยอิสระ โปร่งใส และรวดเร็ว เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในประเด็นที่มีการกล่าวอ้างถึงการมีส่วนเกี่ยวข้องของข้าราชการตํารวจกับกลุ่มสแกมเมอร์และการพนันออนไลน์ ทั้งนี้ หากปรากฏว่ามีข้าราชการตํารวจไปเกี่ยวข้องกับการกระทําผิดจริง ขอให้เร่งดําเนินคดีทางอาญาและวินัยอย่างเฉียบขาดต่อเจ้าหน้าที่ทุกราย โดยไม่มีข้อยกเว้น ตลอดจนเร่งรัตปราบปรามกลุ่มสแกมเมอร์และการพนันออนไลน์ให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็ว เพื่อรักษาศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และเพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีการปกป้องผู้กระทําผิดในทกกรณี
2.ข้อเสนอและความเห็นต่อกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ให้สัมภาษณ์ว่า “…ตํารวจ คือ แก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย…” นั้น หาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีเจตนาดีต่อสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และบ้านเมือง ในการแก้ปัญหา เรื่องการกระทําผิดของคนร้ายและมีเจ้าหน้าที่ตํารวจที่เข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์ ดังนั้น ในฐานะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เอง เคยเป็นนายตํารวจชั้นผู้ใหญ่และอยู่ในสังกัดสํานักงานตํารวจแห่งชาติ มาก่อน ก็ควรจะแจ้งข้อมูลที่ตนอ้างว่ารู้และมีข้อมูลอยู่ในครอบครองต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการจับกุมปราบปรามอย่างจริงจัง แต่ไม่ใช่กระทําเพียงออกมาแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์ในเชิงให้ร้ายต่อสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และข้าราชตํารวจใจในลักษณะเหมารวมเช่นนี้ และจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏส่วนใหญ่จะเป็นการแถลงข่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ โดยมุ่งหวังทําลายความน่าเชื่อถือ หรือมุ่งให้ร้ายแก่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และข้าราชการตํารวจ โดยในขณะเดียวกันก็มักจะพูดยกย่องถึงความรู้ความสามารถของตนเองที่ผ่านมาว่า สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ดี ไม่เป็นเช่นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการพูดในลักษณะ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” นั้น ทําให้เกิดความลสับสนต่อสังคมและเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ รวมทั้งยังส่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตํารวจโดยส่วนรวมด้วย
พล.ต.อ.วินัย กล่าวย้ําว่า การเรียกร้องในวันนี้เนื่องจากมองว่าการออกมาใส่ร้ายองค์กรตํารวจของ 2 คนเป็นการบั่นทอนและทําลายชื่อเสียงรวมทั้งทําลายความเชื่อมั่นประชาชนที่มีต่อองค์กรตํารวจเนื่องจากองค์กรตํารวจก่อตั้งมานานเป็น 100 ปี จึงต้องการกอบกู้ศรัทธา โดยย้ําว่าหากทั้ง 2 คนมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ก็ขอให้นํามามอบให้กับสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เพื่อเอาผิดและจัดการกับตํารวจไม่ดี
“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เป็นอดีตข้าราชการตํารวจชั้นผู้ใหญ่แต่กลับมีพฤติกรรมพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เป็นเพียงเพราะผิดหวังจากตําแหน่งและถูกให้ออกจากราชการ พร้อมเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ดําเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ถูกพาดพิงว่ามีการกระทําความผิด โดยทั้ง 4 ประชาคม จะเฝ้าติดตามความคืบหน้า” พล.ต.อ.วินัย กล่าว

ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ พล ต.อ.กิตติ์รัฐ ให้ออกมาตอบโต้และไม่ควรนิ่งเฉยในฐานะผู้นําองค์กรตํารวจนั้น พล.ต.อ.วินัย กล่าวว่า มองว่าบุคคลิกของผู้นําแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตนเองจึงต้องออกมาเรียกร้องและตอบโต้ ยืนยันว่าการเรียกร้องของ 4 ประชาคมไม่ใช่เป็นกระบอกเสียง หรือเป็นหนังหน้าไฟของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ นอกจากนี้ตนเองไม่เคยยกหูคุยทางโทรศัพท์กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นการส่วนตัว เนื่องจากมองว่าโตๆ กันแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองจะเคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นแต่งตั้งเพื่อตรวจสอบการกระทําของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล อดีตผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ที่มีปัญหากัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้มีมติชี้มูลว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีความผิด แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังไม่มีมติออกมาต่อสาธารณชนนั้น ทําให้เกิดข้อสงสัย พล.ต.อ.วินัย กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการ และยืนยันว่าเรื่องนี้มีพยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ขอให้รายละเอียดมากไปกว่านี้ แม้ว่าปัจจุบันทาง ก.ร.ตร.จะมีมติชี้มูล พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กับพวกไปแล้วก็ตาม
ด้าน พล.ต.ต.ไอยศูนย์ สิงหนาท หัวหน้าสมาคมตํารวจสาขานครราชสีมา กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจให้กับข้าราชการตํารวจระดับชั้นผู้น้อยเป็นจํานวนมากที่รู้สึกไม่สบายใจ และขอให้ตนเองออกมาดําเนินการกับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด เพราะทําให้บั่นทอนกําลังใจในการทํางานของเจ้าหน้าที่ตํารวจ พร้อมยอมรับว่าเสียดาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ตนเองรู้จักและติดตามการทํางานมาโดยตลอด ทั้งที่เป็นตํารวจหนุ่มไฟแรงและมีอนาคตที่สดใส แต่กลับมากล่าวหาใส่ร้ายองค์กรตํารวจที่ตนเองเติบโตมา
ด้าน พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวชี้แจงกรณีเรียกร้องให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ออกมาชี้แจงและตอบโต้ในเรื่องดังกล่าวด้วยตนเองในฐานะผู้นําหน่วย ว่า การออกมาตอบโต้มีหลายวิธี แต่วิธีที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติทําคือการตอบโต้ด้วยการทํางานมีผลการจับกุม สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นวิธีที่ทําให้ประชาชนเห็นผลงานมากกว่า ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ก็มีการรวบรวมพยานหลักฐานยืนยันว่าจะดําเนินคดีกับทุกคนที่กล่าวหาใส่ร้ายองค์กรตํารวจ เพราะการกล่าวหาใครต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนมีกระบวนการทํางานอยู่แล้ว
ข่าว
5 พ.ย. 2568 15:28 76 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 13:52 161 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 12:43 123 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 12:34 98 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 12:28 114 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 12:09 126 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 11:56 100 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 11:47 231 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 11:01 137 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 10:53 164 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 10:31 136 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 10:07 121 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 10:01 149 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 09:57 124 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 09:56 137 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 09:50 154 views