กบง.ตรึงราคาก๊าซ LPG ถึงสิ้นปี แก๊ส 15 กก.423 บาท  พร้อมตั้งทีมขับเคลื่อนงานด้านนโยบายไฟฟ้า

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงานเปิดเผยภายหลังประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คงราคาขายส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) หน้าโรงกลั่นที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มสําหรับถังขนาด 15 กิโลกรัมอยู่ที่ประมาณ 423 บาท โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิง (กบน.) บริหารจัดการเงินกองทุนให้สอดคล้องกับแนวทางการดูแลราคาก๊าซ LPG ต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน จํานวน 2 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ มีหน้าที่จัดทําพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าในระยะยาวและจัดทําแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) เพื่อให้การจัดหาไฟฟ้าระยะยาวมีประสิทธิภาพและมั่นคง สอดคล้องกับเศรษฐกิจของประเทศ มี นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็นประธานอนุกรรมการ นายคุรุจิต นาครทรรพและ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นรองประธานอนุกรรมการ

โดยคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวประกอบด้วย ผู้อํานวยการสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน ผู้แทนจากหน่วยงานต่างเช่นกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สํานักงานคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย บริษัท ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี นายนที สิทธิประศาสน์ นายกวิน ทังสุพานิช นายกุลยศ อุดมวงศ์เสรี นายเทียนไชย จงพีร์เพียง

คณะอนุกรรมการชุดนี้มี ผู้อํานวยการกองนโยบายไฟฟ้า สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ผู้อํานวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สํานักงานนโยบายและแผนพลังงานและ ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังได้มีมติ เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขับเคลื่อนการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศและประสานความร่วมมือการวางแผนและก่อสร้างระบบสายส่งเชื่อมโยงระหว่างประเทศ รวมถึงความร่วมมืออื่นๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานอนุกรรมการ โดยคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวประกอบด้วยผู้แทนจากสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน กองการต่างประเทศ สํานักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศกระทรวงการต่างประเทศ กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สํานักงานอัยการสูงสุด กรรมการกํากับกิจการพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และในคณะอนุกรรมการชุดนี้ มี ผู้แทนสํานักงานนโยบายและแผนพลังงานเป็นอนุกรรมการและเลขานุการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

ที่ประชุมได้มอบหมายให้สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กบง. เสนอร่างคําสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 2 คณะต่อประธาน กบง. เพื่อลงนามต่อไป