วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2568
14 พ.ย. 2568 12:50 | 61 view
@pracha
‘กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ’ เคาะที่มา ‘กมธ.ยกร่าง รธน.ใหม่’ จากการสมัครผ่าน กกต. พร้อมกําหนดกติกา ก่อนส่งให้รัฐสภาเลือกผ่านสูตร ’20 หยิบ 1′ ปัดเอื้อพรรคเสียงข้างมาก ยันครอบงําไม่ได้
14 พ.ย. 2568 – ที่รัฐสภา นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา แถลงถึงความคืบหน้าของการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ที่ประชุม กมธ. ได้เห็นชอบการกําหนดที่มาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ จํานวน 35 คน มาจากการสมัครของประชาชน ผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
โดยผู้สมัครนั้น ต้องมีประชาชนรับรองอย่างน้อย 100 รายชื่อ และต้องมีเอกสารแสดงวิสัยทัศน์ อุดมการณ์ ความยาว 1 หน้ากระดาษ ทั้งยังมีข้อกําหนดว่า เมื่อรับสมัครแล้วจะนําข้อมูลของผู้สมัครเผยแพร่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมตรวจสอบประวัติและอุดมการณ์ จากนั้นให้ส่งรายชื่อให้รัฐสภาคัดเลือก
สําหรับกระบวนการเลือกโดยรัฐสภานั้น มติของ กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ กําหนดให้ใช้สูตร 20 หยิบ 1 คือ ให้สมาชิกรัฐสภารวมกลุ่ม กลุ่มละ 20 คน เพื่อเสนอชื่อ กมธ. 1 คน แต่หากไม่สามารถหาจํานวน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ครบ 35 คน จะให้ใช้วิธีการที่สมาชิกรัฐสภา จํานวน 10 คน เสนอบัญชีผู้จะได้รับการเลือกเป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นจํานวน 2 เท่าของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญชี้ขาด จากนั้นให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมาก เกิน 2 ใน 3 ทั้งนี้ กมธ.ได้กําหนดให้รัฐสภาเลือก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน แต่หากครบเวลาแล้วยังได้ไม่ครบ 35 คน แต่ได้เป็นจํานวน 90% หรือ 33 คน ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการกําหนดสูตร 20 หยิบ 1 กมธ.ได้หารือถึงวิธีการรวมกลุ่มหรือไม่ ว่าจะรวมกลุ่มอย่างอิสระหรือมีเงื่อนไข นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ในหลักการเป็นรวมกันของสมาชิกรัฐสภาที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ซึ่ง กมธ.เห็นว่ามีข้อดีที่จะทําให้เกิดความหลากหลายของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า กมธ.กังวลหรือไม่ว่า กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ อาจถูกล็อกโควตาโดยพรรคการเมืองที่มี สส. จํานวนมากในสภาฯ น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า การเลือกนั้น เป็นหลักการที่ตรงไปตรงมา เหมือนกับการเลือกตัวแทนในสัดส่วนของ กมธ.พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ประชาชนจะเห็นชัดเจนว่าผู้สมัคร สส.ที่เลือกนั้น จะเป็นตัวแทนประชาชน นอกจากได้เลือกนายกรัฐมนตรี แล้วยังได้เลือกสมาชิกที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เมื่อถามย้ําว่า การรวมกลุ่มของสมาชิกรัฐสภา 20 คนโดยอิสระ อาจทําให้เกิดการจัดตั้งได้ เช่น รอบหน้าพรรคประชาชนได้รับเลือกตั้ง 200 คน จะได้สิทธิเลือก กมธ.ยกร่าง 10 คน น.ส.พนิดา กล่าวว่า “แปลว่าเป็นการสะท้อนเสียงของประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ทดแทนที่ประชาชนไม่สามารถเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองได้”
ส่วนกังวลหรือไม่ว่า ข้อเสนอที่พิจารณา เมื่อส่งเข้ารัฐสภา อาจถูกติงว่าหนีไม่พ้นการครอบงําของฝ่ายการเมืองนั้น น.ส.พนิดา กล่าวว่า การเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่มีข้อจํากัดจากคําวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถตัดขาดจากสภาได้ ต้องใช้สมาชิกรัฐสภาเลือก แต่เลือกอย่างไร เพื่อสะท้อนความต้องการของประชาชนที่สุด จึงเป็นสมการนี้ ซึ่งในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอพรรคภูมิใจไทยให้ใช้เสียงข้างมาก
ดังนั้น เท่ากับว่าฝ่ายที่ครองเสียงข้างมากจะเป็นคนกําหนดหน้าตา กมธ.ร่างทั้งหมด ทําให้ขาดหลักประกันเสียงข้างน้อยของรัฐสภาเป็นผู้ร่าง แต่การกําหนดสูตร 20 หยิบ 1 ทําให้ สส. และ สว. มีเอกสิทธิรวมกลุ่มกับใครก็ได้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เป้าหมายเดียวกันที่จะส่งคนเป็นตัวแทนร่างรัฐธรรมนูญ คือเป็นหลักประกันทุกคนมีตัวแทนให้รัฐสภารับรอง
นายนรเศรษฐ์ กล่าวเสริมว่า กรณีที่สอบถามว่าหากพรรคประชาชน ได้รับเลือกตั้งมา 200 คน จากสูตร 20 หยิบ 1 จะได้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ เต็มที่ 10 คน จาก 35 คน ซึ่งไม่สามารถเข้ามาครอบงํา หรือเป็นเสียงส่วนใหญ่ใน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ จึงรับประกันว่ากมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมีความหลากหลายและกระจายในสัดส่วนอุดมการณ์มาจากตัวแทนประชาชน
ภายหลังจากยุบสภาและหาเสียง ตนเชื่อว่าพรรคการเมืองจะสื่อสารกับประชาชนว่า พรรคมีแนวทางอย่างไร เรื่องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทางประชาชนใช้หลักการเลือก สส.เขต และบัญชีรายชื่อ เพื่อเป็นการส่งผ่านเจตนารมณ์ของตนเองเพื่อให้ สส.เลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ดีในแนวทางที่ กมธ.แก้รัฐธรรมนูญหารือร่วมกันนั้น จะทําให้ได้รับเสียงสนับสนุนในรัฐสภาเมื่อถึงเวลาพิจารณาวาระสองและวาระสามได้
ขณะที่นายเอกพร รักความสุข สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า การพิจารณากําหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กําหนดให้ผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญถูกจํากัดการเข้าสู่ตําแหน่งการเมือง 3 ปี แต่มีข้อเสนอจาก กมธ.คนอื่นว่า ควรให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตลอดชีวิต เพื่อให้เกิดความสบายใจว่า คนทํารัฐธรรมนูญนั้น ไม่มีผลประโยชน์ใด อย่างไรก็ตาท ยืนยันว่าการทํางานใน กมธ. มีความเห็นพ้องไม่มีความขัดแย้งระหว่าง กมธ.ที่มาจากต่างพรรคการเมือง.
ข่าว
14 พ.ย. 2568 14:59 21 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 14:53 30 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 14:29 12 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 14:27 27 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 14:22 18 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 14:13 25 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 13:57 55 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 13:07 46 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 12:55 77 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 12:50 62 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 12:22 54 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 11:32 94 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 11:18 92 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 11:09 74 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 10:59 99 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 10:51 121 views