วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568
15 พ.ย. 2568 13:37 | 63 view
@pracha
‘พิพัฒน์’ ถก 5 ฝ่าย สางปมสัญญา ‘ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน’ สั่ง อีอีซี.สรุปเคลียร์ข้อสังเกตของอัยการ เร่ง ชงบอร์ดอีอีซี พ.ย.นี้ พร้อมชง ครม. ตัดสินใจจะแก้หรือไม่แก้สัญญาฯเสี่ยงรัฐถูกฟ้อง ส่อขัดหลักพ.ร.บ.ร่วมทุน PPP
15 พ.ย. 2568-นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือเพื่อติดตามประเด็นความล่าช้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) มูลค่ากว่า 2.24 แสนล้านบาทว่าได้ประชุมหารือร่วม 5 หน่วยงาน ได้แก่ EEC.ในฐานะเจ้าของโครงการ, สํานักงานอัยการสูงสุด, บริษัท เอเชีย เอรา วัน จํากัด ผู้รับสัมปทาน กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่าจากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่5 หน่วยงานมาให้ข้อมูลว่าหากมีการแก้ไข้สัญญาแล้วจะเป็นอย่างไร จึงเชิญที่ปรึกษาจากอัยการสูงสุดมาร่วมประชุมเพื่อต้องการข้อเสนอแนะ
ทั้งนี้ เนื่องจากเอกชนผู้รับสัมปทานยืนยันที่จะขอมีการแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินสนับสนุนจากภาครัฐเป็นแบบ “สร้างไปจ่ายไป” โดยทาง อีอีซี ไม่ได้ขัดข้องในเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าสําเร็จ ในส่วนของตนนั้นไม่เห็นด้วยกับรูปแบบในการที่จะสร้างไป จ่ายไป ขณะที่อัยการสูงสุดก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าแก้ได้หรือไม่ได้ แต่ในสัญญาข้อ 5 ระบุว่า เหตุการณ์อย่างภัยธรรมชาติโรคระบาด หรือสงคราม ไม่สามารถใช้เป็นสาเหตุแก้ไขสัญญาได้ ดังนั้นจะนําเรื่องนี้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นผู้พิจารณาเรื่องดังกล่าว
สําหรับรายละเอียดต่างๆได้มอบให้ อีอีซี.ไปสรุปเร่งดําเนินการตามข้อสังเกตของสํานักงานอัยการสูงสุด และให้เสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(บอร์ดอีอีซี) พิจารณาภายในเดือนปลายเดือน พ.ย.2568 ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาต่อไป โดยเรื่องนี้จะต้องได้ข้อสรุปก่อนยุบสภาปลายเดือน ม.ค.2569 ซึ่งหลังจากนี้ อีอีซี. ต้องไปเร่งหารืออัยการสูงสุดให้ชัดเจนทุกข้อสังเกต และรีบกลับมาเสนอเข้า ครม. พิจารณาโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันจะต้องรอความเห็นจากกระทรวงการคลังและสํานักงบประมาณด้วย
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขสัญญาฯ เพราะกังวลว่าจะเป็นตัวอย่างให้โครงการอื่นๆ เนื่องจากในอนาคตสามารถร้องขอแก้ไขสัญญาได้เช่นกัน ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงด้านกฎหมายอย่างชัดเจนว่าอาจถูกผู้ยื่นประมูลรายอื่นๆฟ้องร้อง เหตุเพราะหากรู้เงื่อนไขสามารถเปลี่ยนหลังประมูลได้ ขณะเดียวกันขึ้นอยู่กับมติ ครม. โดยมี 2 ทางเลือก คือ หาก ครม. อนุมัติให้แก้ไขสัญญา โครงการจะเดินหน้าต่อภายใต้เงื่อนไขใหม่ แต่จะต้องรับความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้องและผลกระทบต่อหลักการ PPP และหาก ครม. ไม่อนุมัติ จะต้องเชิญภาคเอกชนมาหารืออีกครั้งว่าต้องการเดินหน้าต่อหรือยุติ ซึ่งอาจทําให้โครงการเข้าสู่ความไม่แน่นอนและต้องหาแนวทางใหม่ตามมติ ครม. อีกครั้ง
แหล่งข่าวจากบริษัท เอเชีย เอรา วัน จํากัด (ซีพี) เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมหารือประเด็นการแก้ไขปัญหารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ร่วมกับกระทรวงคมนาคม, สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ,การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสํานักงานอัยการสูงสุด ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าจะมีการแก้ไขสัญญาหรือไม่ เนื่องจากต้องรอการนําเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน
สําหรับประเด็นที่อัยการสูงสุดมีความเห็นในที่ประชุมถึงเรื่องหลักประกัน มองว่าประเด็นหลักประกันที่ต้องวางใหม่ ควรเป็นประกันเฉพาะส่วนที่รัฐต้องจ่ายเงินให้กับเอกชนตามผลงานที่ส่งมอบเท่านั้น ไม่ควรต้องนําหลักประกันทั้งหมดมารวมไว้กับงานอื่น ๆ ที่มีหลักประกันเดิมครอบคลุมอยู่แล้ว เนื่องจากหลักประกันดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้รัฐเกิดความสบายใจในการจ่ายเงินตามงานที่ส่งมอบได้ต่อเนื่อง และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกับโครงการอื่นที่ต้องรอการก่อสร้างเสร็จทั้งหมดก่อนจึงจะจ่ายเงิน ทําให้หากโครงการถูกทิ้งงาน รัฐจะไม่สามารถเข้าไปดําเนินการต่อได้ทันที เพราะยังไม่ถือเป็นทรัพย์สินของรัฐ
แหล่งข่าวจากบจ. เอเชีย เอราวัน กล่าวต่อว่า ยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะเดินหน้าโครงการ และยอมรับว่าต้องเตรียมความพร้อมแล้ว แต่หยุดชะงักมานานหลายปี คาดว่าโครงการจะสามารถเริ่มดําเนินการก่อสร้างได้ภายในช่วงกลางปี 2569 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ครม.ด้วย
“ประเด็นการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อดําเนินโครงการนี้ เบื้องต้นทางธนาคารผู้ให้กู้ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและ CDB ของประเทศจีน มีความเห็นว่า หากใช้วิธีการชําระเงินตามสัญญาเดิมจะไม่สามารถให้กู้ได้ โดยแนะนําว่าในส่วนของงานด้าน ระบบอาณัติสัญญาณ และงานก่อสร้างด้านโยธาจําเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการชําระเงิน” แหล่งข่าวจากบจ. เอเชีย เอราวัน กล่าว
ส่วนประเด็นข้อเสนอเพิ่มเติมจากกระทรวงคมนาคมเรื่องรถไฟความเร็วสูงส่วนต่อขยายเชื่อมจังหวัดตราด เบื้องต้นบริษัทมีความสนใจ แต่มีเงื่อนไขสําคัญที่ต้องพิจารณา คือ รูปแบบการลงทุนว่าจะเป็นการลงทุนแบบ PPP Net Cost ซึ่งรูปแบบนี้อาจจะยากไปสําหรับบริษัท เพราะเอกชนรับความเสี่ยงรายได้ทั้งหมด นอกจากนี้รูปแบบการลงทุน PPP Gross Cost อาจจะดําเนินการได้ เพราะรัฐรับความเสี่ยงรายได้และจ่ายค่าบริหารจัดการให้เอกชน ทั้งนี้คงต้องรอการพิจารณาข้อเสนอและเงื่อนไขที่ชัดเจนอีกครั้งกับภาครัฐก่อนตัดสินใจลงทุน
ข่าว
15 พ.ย. 2568 13:37 64 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 13:32 99 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 13:25 72 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 13:12 68 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 13:11 75 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 13:04 80 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 12:59 67 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 12:53 77 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 12:34 79 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 10:15 81 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 10:13 64 views
ข่าว
15 พ.ย. 2568 10:09 59 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 16:06 268 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 15:36 172 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 14:59 148 views
ข่าว
14 พ.ย. 2568 14:53 165 views