จีนตอบโต้นายกฯหญิงคนใหม่ญี่ปุ่นอย่างแข็งกร้าว หลังประกาศพร้อมส่งกองกําลังช่วยไต้หวัน—ชี้เป็นการแทรกแซงกิจการภายในจีนอย่างร้ายแรง ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และท้าทายระเบียบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

วันที่ 20 พ.ย.68 - สถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลัง เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกแถลงการณ์ตอบโต้ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่งระบุว่า หากจีนบุกไต้หวัน ญี่ปุ่น “พร้อมส่งกองกําลังเข้าไปช่วยเหลือ” เนื่องจากมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นเอง

เหมา หนิง ระบุว่า คําพูดดังกล่าวถือเป็น “ความเห็นที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง” และเป็นการ แทรกแซงกิจการภายในของจีน อย่างชัดเจน พร้อมชี้ว่าญี่ปุ่นละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงท้าทายระเบียบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นกรอบสําคัญในการรักษาสันติภาพระหว่างประเทศ

จีนยังวิจารณ์ว่าญี่ปุ่นไม่มีคุณสมบัติที่จะสมัครเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยอ้างอิงประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองที่กองทัพญี่ปุ่นเคยก่อให้เกิดหายนะต่อประชาชนในเอเชียจํานวนมาก และจนถึงวันนี้ ญี่ปุ่นยังไม่ทบทวนหรือยอมรับอาชญากรรมสงครามของตนอย่างเต็มที่

จีนระบุด้วยว่า ยังมีนักการเมืองญี่ปุ่นที่สนับสนุนมุมมองประวัติศาสตร์ที่บิดเบือน และเดินทางไปสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิ ซึ่งจีนและเกาหลีใต้มองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโหดร้ายในสงคราม ทําให้จีนรู้สึกว่าญี่ปุ่นกําลังบิดเบือนหรือแม้กระทั่งยกย่องประวัติศาสตร์การรุกรานของตนเอง

สถานการณ์นี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งแรงสั่นสะเทือนในความสัมพันธ์จีน–ญี่ปุ่น และเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นจุดร้อนทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลกในเวลานี้