สุราษฎร์ธานีประกาศเขตภัยพิบัติ 8 อําเภอ น้ําท่วมหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะอําเภอไชยา โรงเรียนปิด 5 แห่ง เจ้าหน้าที่เร่งอพยพ–แจกถุงยังชีพช่วยชาวบ้านกว่า 1 หมื่นครัวเรือน

วันที่ 21 พ.ย.68 - สถานการณ์น้ําท่วมในจังหวัดสุราษฎร์ธานีกําลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน จนถึงปัจจุบัน ทําให้หลายอําเภอได้รับผลกระทบอย่างหนัก ชาวบ้านกว่า 10,000 ครัวเรือนต้องเผชิญกับน้ําท่วมในพื้นที่กว่า 30 ตําบล และมากถึง 272 หมู่บ้าน

จังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงประกาศให้ 8 อําเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ได้แก่ อําเภอไชยา ท่าชนะ ท่าฉาง วิภาวดี คีรีรัฐนิคม พุนพิน ดอนสัก และกาญจนดิษฐ์ โดยเฉพาะอําเภอไชยาที่ถูกน้ําท่วมหนักที่สุด หลายตําบลน้ํายังสูงต่อเนื่อง ทั้งตําบลตลาดไชยา ตําบลทุ่ง ตําบลเลม็ด ตําบลพุมเรียง และตําบลป่าเว

โรงเรียนในพื้นที่ได้รับความเสียหายจํานวนมาก โดยโรงเรียนสารภีอุทิศมีระดับน้ําสูง 30–50 เซนติเมตรทั่วบริเวณ ทําให้ต้องปิดการเรียนการสอนต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว รวมถึงโรงเรียนอื่น ๆ อีก 5 แห่งในเขตตําบลตลาดไชยา ที่ยังไม่สามารถเปิดการเรียนได้ เจ้าหน้าที่เร่งสํารวจทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย พร้อมติดตามสภาพอากาศและปริมาณน้ําอย่างใกล้ชิด

ในเขตอําเภอท่าฉาง มวลน้ําจากพื้นที่ภูเขาในคืนที่ผ่านมาไหลทะลักเข้าท่วมถนนระดับน้ําสูง 20–30 เซนติเมตร ขณะที่จุดลุ่มต่ําบางแห่งท่วมกว่า 1 เมตร บ้านเรือนใน 7 หมู่บ้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมรับมือ คาดว่าพื้นที่ตําบลท่าฉางจะได้รับผลกระทบมากขึ้นในวันถัดไป

ส่วนในอําเภอกาญจนดิษฐ์และอําเภอดอนสัก น้ําป่าจากเทือกเขาที่กั้นระหว่างนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานีเริ่มไหลลงคลองท่าทองและคลองสระ ส่งผลให้พื้นที่ตําบลปากแพรกและท่าอุแทถูกน้ําท่วมแล้ว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้รับคําสั่งให้เฝ้าระวังระดับน้ํา 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างทันท่วงที

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยังคงเร่งระดมกําลังช่วยเหลือ ทั้งการแจกจ่ายถุงยังชีพ ข้าวกล่อง และการสํารวจพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในวงกว้างที่สุดท่ามกลางสถานการณ์น้ําท่วมที่ยังไม่คลี่คลาย