นายกฯ ชูกําปั้นสู้เหตุปะทะชายแดน ก่อนถกวาระครม. จับตาถกแผนซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า 4 สาย ลดค่าใช้จ่ายประชาชน

วันนี้ (9 ธันวาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ได้หันมายิ้มให้สื่อ ก่อนชูกําปั้นขึ้น พร้อมบอกว่า สู้ๆ ก่อนเดินขึ้นตึกบัญชาการทันที ขณะที่ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พยักหน้ารับ หลังผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายเรียกร้องให้การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาครั้งนี้ ต้องทําให้จบ แต่ไม่ได้ตอบคําถาม ก่อนเดินขึ้นห้องประชุมทันที

ทั้งนี้ ต้องจับตาท่าทีของรัฐบาลว่าจะมีการเร่งรัดให้โครงการสําคัญจํานวนมากเข้าสู่วาระ เพื่อเดินหน้ามาตรการด้านการคลังและวางฐานการพัฒนาเศรษฐกิจระยะกลาง ไม่รอให้ถึงเดือนมกราคม 2569 ตามเดิม นอกจากนี้ ครม. จะมีการติดตามสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชา หลังจากเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งมีมติสนับสนุนปฏิบัติการทางทหาร และการทํางานของกองทัพเพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน

การประชุม ครม. ที่คาดว่าจะมีการพิจารณา อาทิ กระทรวงการคลังเตรียมนําโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ‘คนละครึ่งพลัส เฟส 2’ เข้าพิจารณา ครม. โดยมีกระแสว่าวาระอาจถูกเสนอในวันนี้ (9 ธันวาคม) รวมถึงมาตรการ TISA ซึ่งผ่าน ครม.เศรษฐกิจแล้ว ถูกผลักเข้าวาระเพื่อรองรับโครงสร้างประชากรสูงอายุ โดยเปิดให้ผู้เสียภาษีลดหย่อนจากการออมและการลงทุนได้เต็มวงเงิน 800,000 บาท โดยไม่ต้องต่ออายุปีต่อปีเหมือนกองทุนอื่น โดยผู้มีรายได้ต่ํากว่า 1.5 ล้านบาท จะได้รับสิทธิพิเศษออมได้ 1.3 เท่า คาดว่าจะครอบคลุมผู้มีสิทธิประมาณ 11.4 ล้านคน

ด้านกระทรวงคมนาคมเตรียมนําแผนซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า 4 สาย​ มูลค่ากว่า​ 1 แสนล้านบาท​ โดยให้การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดูแลเพียงรายเดียวตั้งเป้าลดภาระค่าโดยสาร กระทรวงการคลังนําเสนอร่างกฎกระทรวงปรับอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมก่อนมาตรการส่งเสริม EV3 สิ้นสุดภายในปีนี้ ควบคู่กับโครงการเมืองคาร์บอนต่ํา และการพัฒนาตลาดคาร์บอนของประเทศ

ส่วนรัฐมนตรีที่แจ้งลาประชุม ครม. วันนี้มี 4 คน ได้แก่ 1. ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2. พล.ท. อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม 3. ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ 4.จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม