การแข่งขันแบดมินตันในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2025 ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา ประเภททีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ ทีมไทย แชมป์ 9 สมัย และเป็นแชมป์ 6 สมัยติดต่อกัน พบกับ อินโดนีเซีย แชมป์ 14 สมัย 

คู่แรก ประเภทหญิงเดี่ยว มือ 1 "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 6 ของโลก ประเดิมไม่สวย พ่ายให้กับ ปูตรี กูซูมา วาร์ดานี มืออันดับ 7 ของโลก  1-2 เกม 8-21, 21-13 และ 16-21 ไทยตาม อินโดนีเซีย 1-0

คู่ที่สอง ประเภทหญิงคู่ มือ 1 มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด กับ "เฟม" ศุภิสรา เพียวสามพราน เบียดเอาชนะ ราเชล อัลเลสส์ยา โรส กับ เฟบี เซเทียนิงรัม  2-1 เกม 21-18, 11-21 และ 21-18  ทีมชาติไทยตีเสมอ อินโดนีเซีย 1-1  

จากนั้นคู่ที่สาม ประเภทหญิงเดี่ยว มือ 2 "เมย์" รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 8 ของโลก ไม่พลาด เอาชนะ เกรกอเรีย มาริสก้า ตุนจุง มืออันดับ 10 ของโลก 2-0 เกม  21-7, 21-15 พาทีมไทยแซงขึ้นนํา 2-1 คู่ ต้องการชัยชนะอีก 1 คู่เพื่อคว้าเหรียญทองสมัยที่ 10 

คู่ที่สี่ ประเภทหญิงคู่ มือ 2 "มุก" อรณิชา จงสถาพรพันธุ์ กับ "เจน" เฌอย์ณิชา สุดใจประภารัตน์ เอาชนะ เฟเบียน่า ดาวีพูจี กุสุมา กับ เมลิซ่า ปุสปิตาซารี 2-0 เกม 21-19, 21-18 คว้าแชมป์ประเภททีม ซีเกมส์ สมัยที่ 10 และเป็น แชมป์ 7 สมัยติดต่อกัน

“เมย์” รัชนก กล่าวว่า ขอบคุณแฟนกีฬาที่เข้ามาเชียร์ทําให้มีความคึกและตื่นเต้น มีหลายฟิลลิ่งในสนาม ก่อนเกมมีความเกร็ง เพราะจะแพ้ไม่ได้ พอชนะผ่อนคลายไปได้ ส่วนคู่แข่งนั้นสัมผัสได้ว่าเขาร่างกายไม่เต็มร้อย ทําให้ตัวเองคุมเกมให้ได้ก็พอ ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคนที่ช่วยกันซ้อมและแข่งขัน สนามนี้จะเป็นสนามสุดท้ายจริงๆ ของตัวเองในการเล่นซีเกมส์อยากขอบคุณทุกๆ คน และหลังเหลือแข่งประเภทบุคคล คิดว่าไม่ยากไม่ง่าย และจะพยายามเล่นให้เป็นตัวเองมากที่สุด

ด้าน“หมิว” พรปวีร์ กล่าวว่า ห่างสนามไปกว่า 2  เดือน และเพิ่งกลับมาซ้อมได้ 3 สัปดาห์ โดยแมตช์นี้การตัดสินใจตีบางช็อตของเรายังไม่เฉียบคม และคู่แข่งตีบีบให้เราผิดพลาดเอง จนแพ้ไป ส่วนในประเภทบุคคลตัวเองไม่ลงแข่งขัน ก็จะคอยให้กําลังเพื่อนๆ หลังจากก็จะเดินทางไปแข่งรายการเวิลด์ทัวร์ ไฟนัล ในวันที่ 14 ธันวาคม ช่วงนี้ก็จะเชียร์เพื่อนๆ ในซีเกมส์ และฝึกซ้อมเตรียมไปรายการต่อไป ซึ่งตั้งเป้าจะพยายามไม่เป็นบ๊วย เพราะดูจากคู่แข่งก็ค่อนข้างหนัก