วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2568
11 ธ.ค. 2568 09:43 | 133 view
@pracha
ส.อ.ท. ชี้สถานการณ์ปะทะชาย ‘แดนไทย-กัมพูชา’ ส่งผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจและการค้าชายแดน เดิมกระทบการค้าขายมูลค่า 500 ล้านบาทต่อวัน ยิ่งทําให้การค้าขายต่อวันลดลงเกือบ 100% ย้ําการเจรจาการค้าภาษีสหรัฐ ยังต้องรอดูท่าทีสหรัฐ ส่งแรกที่ต้องทําคือ อพยพประชาชน และเร่งจบสถานการณ์โดยเร็ว
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดน “ไทย-กัมพูชา” ที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชายแดนและการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่อย่างหนัก ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนยืนยันกัมพูชายั่วยุ ผิดสนธิสัญญา โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ กัมพูชาเป็นฝ่ายสร้างสถานการณ์และยั่วยุอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการกระทําที่ผิดต่อสนธิสัญญาออตตาวาอย่างร้ายแรง นั่นคือการวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ การยั่วยุอย่างต่อเนื่องนี้รวมถึงการวางกับระเบิดในเขตประเทศ ทําให้ทหารไทยต้องสูญเสีย
ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้นําเอาหลักฐานที่ชัดเจนไปชี้แจงล่าสุด โดยเฉพาะหลักฐานที่ได้จากโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้จากทหารกัมพูชาในการรบครั้งแรก ๆ โดยหลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายสร้างสถานการณ์ และมีการบันทึกการสาธิตหรือโชว์การวางระเบิดไว้ในเครื่อง ทําให้ผู้แทนของกัมพูชาที่เข้าร่วมประชุมแสดงความตกใจและพยายามคัดค้านไม่ให้มีการนําเสนอ ทั้งนี้ หลังจากการนําเสนอหลักฐานไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทางกัมพูชาใช้เครื่องยิงต่าง ๆ ยิงเข้ามาที่ฐานของไทย ซึ่งทําให้มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บและมีการปะทะด้วยปืนเล็ก และมีการปะทะด้วยปืนต่อต้านที่มีศักยภาพการทําลายที่รุนแรงขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2568 ด้วยเหตุนี้ ในช่วงเช้า กองทัพอากาศจึงได้ส่งเครื่องบิน F16 ไปทิ้งระเบิด ในจุดเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่เป็นแหล่งซ่องสุม หรือมีการติดตั้งอาวุธร้ายแรงที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย
นายเกรียงไกร กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งนี้ส่งผลกระทบต่อเรื่องที่สหรัฐเคยใช้เป็นเงื่อนไขผูกติดไว้ ซึ่งในปัจจุบัน สหรัฐฯ โดย USTR ได้มีจดหมายอย่างเป็นทางการมายังประเทศไทย เพื่อขอให้ “หยุดกระบวนการเจรจา” กับสหรัฐฯ ผ่าน USCR ไปก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าสหรัฐฯ ยังคงเอาเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขอยู่ สถานะของการเจรจาจึงเท่าเดิม คือหยุดไว้และไม่มีการเจรจาเพิ่มเติม ดังนั้น ประเทศไทยต้องชี้แจงและทําความเข้าใจกับสหรัฐฯ โดยยืนยันถึงหลักฐานที่มีอยู่ว่าค่อนข้างชัดเจน ดังนั้น ตอนนี้อาจจะต้องรอดูท่าทีของสหรัฐฯ อีกครั้งในเรื่องของการเจรจาภาษี
สําหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่ชัดเจนที่สุดคือ การปะทะชายแดนได้นําไปสู่การอพยพผู้คนชาวไทยออกนอกพื้นที่หลายแสนคน ในหลายจังหวัดที่มีเขตชายแดนติดต่อกัน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิต ซึ่งการอพยพนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชายแดนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ปัจจุบันตัวเลขการซื้อขายและการค้าขายกับชายแดนกัมพูชาลดลงเหลือเพียง 0.5% ซึ่งนั่นหมายความว่าการค้าขายได้หายไปถึง 99.5% อีกทั้ง ตามสถิติของกรมศุลกากรสถานการณ์นี้เหมือนกับการปิดด่านเกือบถาวรแล้ว ซึ่งการปิดด่านที่ผ่านมาก็กระทบการซื้อขายกันต่อวันที่ 500 ล้านบาท
“การอพยพยังทําให้ชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพต้องหยุดชะงัก หลายอุตสาหกรรมต้องหยุดลง เช่น การทําภาคการเกษตร (ทํานา ทําไร่) ไม่ได้ รวมถึงโรงงานและโรงเรียนต้องหยุดเพื่อความปลอดภัย การค้าขายในบริเวณ 3-4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบก็ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะคํานวณมูลค่าความเสียหายที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้และหวังว่าประเทศไทยจะสามารถดําเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อไม่ให้สถานการณ์ยืดเยื้อเกินไป เพราะสิ่งที่กระทบเพิ่มขึ้นคือขวัญและกําลังใจของประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน”นายเกรียงไกร กล่าว
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:38 49 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:34 41 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:28 59 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:13 49 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:04 72 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 10:57 76 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 10:50 50 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:43 134 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:42 64 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:38 97 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:31 42 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:18 110 views
ข่าว
10 ธ.ค. 2568 17:30 164 views
ข่าว
10 ธ.ค. 2568 17:19 210 views
ข่าว
10 ธ.ค. 2568 16:47 110 views
ข่าว
10 ธ.ค. 2568 14:14 189 views