วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2568
11 ธ.ค. 2568 11:04 | 81 view
@pracha
เปิดฉบับเต็ม! ‘เชิดชาย’ ยื่นหนังสือแจ้งเลขาธิการ UN – ประธาน UNSC ปมเขมรโจมตีไทย
นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจําสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้ส่งหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสโลวีเนียประจําสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ผู้เป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประจําเดือนธันวาคม 2568 เพื่อแจ้งต่อการที่กัมพูชาละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย หนังสือที่เอกอัครราชทูตเชิดชายส่งถึงเลขาธิการสหประชาชาติ มีเนื้อหาดังนี้
กระผมขอเรียนให้ท่านทราบโดยเร่งด่วนถึงการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของ ราชอาณาจักรไทยอย่างร้ายแรงล่าสุด อันเนื่องมาจากการรุกรานและการโจมตีทางอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุของกัมพูชาต่อไทย ดังนี้
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 เวลา 14.15 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดยิงใส่ทหารไทยจากหน่วยกองพันทหารราบที่ 13 ซึ่งปฏิบัติภารกิจปรับปรุงเส้นทางภายในดินแดนของไทยในพื้นที่ภูผาเหล็ก – พลาญหินแปดก้อน อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ การโจมตีดังกล่าวทําให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย โดยในจํานวนนี้ ทหารหนึ่งนายได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอกและทหารอีกหนึ่งนายถูกยิงบริเวณขาขวา ทั้งนี้ ทหารกัมพูชายังคงยิงใส่ทหารไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลา 14.50 น.
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 เวลา 05.05 น. ทหารกัมพูชาได้เริ่มโจมตีฐานทหารไทย โดยปราศจากการยั่วยุใด ๆ ในพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ตามด้วยการโจมตีในวงกว้างอย่างไม่เลือกเป้าหมายตลอดหลายพื้นที่ภายในดินแดนของไทยในจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ต่อมา ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทหารกัมพูชายังได้ยกระดับการโจมตีอีกครั้งด้วยการยิงอาวุธหนักใส่ทหารไทยที่ประจําการในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อําเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ณ เวลา 18.00 น. การโจมตีรุกรานดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ 5 จังหวัดของไทย ทําให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 18 นาย โดยในจํานวนนี้ ทหาร 3 นายอาการสาหัส และมีประชาชนจํานวนกว่า 400,000 คน ต้องอพยพจากที่พักอาศัย โดยในจํานวนนี้ มีประชาชน 2 ราย ที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายในระหว่างการอพยพตลอดทั้งวัน กําลังทหารกัมพูชาได้ดําเนินการโจมตีดินแดนของไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้สัดส่วนและ ผิดกฎหมาย โดยเจตนามุ่งเป้าหมายโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน ปฏิบัติการดังกล่าวใช้อาวุธหนักหลายชนิด รวมถึงเครื่องยิงระบบจรวดหลายลํากล้อง ปืนครก และปืนกลหนัก และยังเสริมด้วยการ เคลื่อนย้ายอาวุธหนักและกําลังพลของกัมพูชาตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง
การโจมตีทางอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุและไม่เลือกเป้าหมายดังกล่าวของกัมพูชาต่อดินแดนของ ไทยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดสระแก้ว เป็นการละเมิดข้อ 2 วรรค 4 ของกฎบัตรสหประชาชาติ หลักการอยู่ร่วมกันฉันมิตรกับประเทศเพื่อนบ้านและหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างรัฐอย่างชัดเจน เพื่อตอบโต้การกระทําดังกล่าว ไทยจึงมีความจําเป็นต้องใช้สิทธิโดยชอบธรรมในการป้องกันตนเองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติเพื่อรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และปกป้องความปลอดภัยของประชาชนไทย มาตรการป้องกันตนเองดังกล่าวดําเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะหลักความจําเป็นและความได้สัดส่วน มาตรการเหล่านี้จํากัดขอบเขต ได้สัดส่วนตามภัยคุกคาม และมุ่งเป้าเหมายเพื่อยับยั้งภัยอันตรายที่ชัดแจ้งจาก ทหารกัมพูชา โดยใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบและอันตรายต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน
เป็นที่น่าเสียใจว่าในทันทีภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ข้างต้น ทางการของกัมพูชาได้ตั้งใจเผยแพร่ข้อมูลเท็จ โดยกล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มการโจมตีก่อน ในขณะที่ในความเป็นจริงแล้ว ฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มยิงใส่ทหารไทยและดินแดนของไทยก่อน การกระทํานี้แสดงถึงการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชาอีกครั้ง ไทยขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริงอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการบิดเบือนข้อเท็จจริง และบ่อนทําลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ
การโจมตีทางอาวุธล่าสุดของกัมพูชาสะท้อนรูปแบบความเป็นปฏิปักษ์ต่อไทยที่เกิดขึ้นซ้ําแล้ว ซ้ําเล่าและทวีความรุนแรงขึ้น รูปแบบดังกล่าวเกิดขึ้นตามมาหลังจากการกระทําที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในลักษณะ ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและเป็นการยั่วยุของกัมพูชา ซึ่งรวมถึงการวางทุ่นระเบิด PMN-2 ใหม่ของกัมพูชาอย่าง ผิดกฎหมายในดินแดนของไทยหลายครั้ง ทําให้ทหารไทยพิการถาวรรวม 7 นาย โดยเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 และต่อมา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ทหารกัมพูชาจงใจเปิดยิงใส่ทหารไทยในดินแดนอธิปไตยของไทย การกระทําเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อพันธกรณีที่มีร่วมกันภายใต้ “ถ้อยแถลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทยและนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย” ลงนามโดยผู้นําของไทยและกัมพูชาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ผ่านการเป็นคนกลางในการประสานงานของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนและประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ประเทศไทยประณามอย่างรุนแรงต่อการรุกรานของกัมพูชา การโจมตีทางอาวุธโดยไม่เลือก เป้าหมายต่อพลเรือน โครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ และเจตนาที่ปรากฏชัดในการทําร้ายกําลังพลของไทยภายในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย การกระทําที่เป็นปฏิปักษ์อย่างไร้ความรับผิดชอบและต่อเนื่องของกัมพูชาต่อไทยมีแต่จะเพิ่มความตึงเครียด ทําลายความมุ่งมั่นที่มีร่วมกันภายใต้ ถ้อยแถลงร่วมฯ และข้อตกลงที่บรรลุในกรอบการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และ คณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) อีกทั้งยังกัดกร่อนความไว้วางใจระหว่างกันซึ่งมีความจําเป็นต่อการมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์
ในการนี้ ไทยเรียกร้องให้กัมพูชาชี้แจงอย่างครบถ้วน รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ และดําเนินมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ําอีก ไทยร้องขอประชาคมระหว่างประเทศให้เรียกร้องต่อกัมพูชาให้ยุติการกระทําอันเป็นปฏิปักษ์และการยั่วยุทั้งหมดที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนชาวไทย ทําลายความมั่นคงชายแดน และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยซ้ําแล้วซ้ําเล่า กัมพูชาต้องปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเต็มที่ และแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา
อย่างไรก็ตาม หนังสือทั้ง 2 ฉบับที่ส่งไปให้แก่เลขาธิการสหประชาชาติและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีเนื้อหาเหมือนกัน แต่ในเนื้อหาท่อนสุดท้าย เอกอัครราชทูตเชิดชายขอให้มีการเวียนหนังสือฉบับนี้ในฐานะเอกสารของการประชุมสมัชชา สหประชาชาติ สมัยที่ 80 ภายใต้ระเบียบวาระ ที่ 31 และขอให้เวียนหนังสือฉบับนี้แก่สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงฯ ทุกประเทศ ในฐานะเอกสารของคณะมนตรีความมั่นคงฯ เพื่อให้รับทราบข้อมูลข้างต้นโดยเร่งด่วน
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:38 71 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:34 58 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:28 79 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:13 60 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 11:04 82 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 10:57 85 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 10:50 59 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:43 152 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:42 80 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:38 106 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:31 54 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2568 09:18 119 views
ข่าว
10 ธ.ค. 2568 17:30 167 views
ข่าว
10 ธ.ค. 2568 17:19 213 views
ข่าว
10 ธ.ค. 2568 16:47 110 views
ข่าว
10 ธ.ค. 2568 14:14 190 views