เวียนมาอีกครั้งกับเทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 หลายคนอาจจะเริ่มเตรียมล้างท้องก่อนในมื้อเย็นวันที่ 14 ตุลาคม เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับสภาพ และทำความคุ้นเคยกับการกินเจได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับช่วงเทศกาลถือศีลกินเจของทุกปี จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน ตรงกับเดือนตุลาคมของไทย ตามปฏิทินสากล รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 9 วัน 9 คืน 

ความหมายของคำว่า “เจ” ในภาษาจีนทางพระพุทธศาสนา หมายถึง “อุโบสถ หรือการรักษาศีล 8” ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ที่จะมีการรักษาอุโบสถศีล ไม่บริโภคอะไรหลังเที่ยงวันตามหลักศีล 8 ข้อ และไม่บริโภคเนื้อสัตว์ อาหาร และเครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต การกินเจจึงไม่ใช่เพียงแต่งดเนื้อสัตว์ แต่ยังรวมถึงการรักษาศีล ประพฤติตัวเป็นคนดีทั้งกาย วาจา ใจ อีกด้วย  

เมื่อถึงเทศกาลถือศีลกินเจ จะมีการนุ่งขาวห่มขาว เพื่อแสดงถึงการตัดกิเลส ตัดทางโลก ไม่สนใจเรื่องเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ทำบุญทำทาน รักษาศีลและจิตใจให้บริสุทธิ์ (ศีล 5 หรือศีล 8) อยู่ในศีลในธรรมตลอดระยะเวลาที่ทำการถือศีลกินเจ

ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ จะมีกฎและข้อยกเว้นที่นอกจากงดเว้นการทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากสัตว์ ยังห้ามรับประทานผักที่มีกลิ่นฉุนด้วย เช่น ผักชี กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย นอกจากนี้ผักชนิดไหนที่มีกลิ่นฉุนก็ไม่ควรทานระหว่างช่วงกินเจเช่นกัน บางคนที่เคร่งครัดมากๆ จะต้องแยกภาชนะชุดใหม่ทั้งหมดไม่ใช่รวมกัน รวมไปถึงคนที่ปรุงอาหารเจก็ต้องรับประทานเจด้วยเช่นกัน

ใครที่ปีนี้ตั้งใจจะกินเจให้ครบกำหนด หรือจะเลือกกินตามความสะดวก สามารถเลือกซื้อได้จากร้านที่มีสัญลักษณ์รูปธงเจ แต่หากมีธงแล้วก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี ว่าเป็น เจจริง หรือเจทิพย์ ก็สามารถเลือกที่จะทำเมนูกินเองได้ที่บ้านให้สบายใจได้แบบ 100%