ระบาดหนัก!!! แอฟริกาพบผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรพุ่ง

เจ้าหน้าที่แพทย์เก็บตัวอย่างน้ำลายจากคนไข้เด็กหญิงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานร หรือเอ็มพ็อกซ์ ที่ศูนย์ดูแลและรักษาผู้ป่วยในเมืองมูนีกี ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประธิปไตยคองโก ขณะที่ข้อมูลล่าสุดพบว่า ยอดผู้ติดเชื้อฝีดาษวานร ในแอฟริกา นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ มีจำนวนมากกว่ายอดผู้ติดเชื้อในปี 2566 ทั้งปีศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา หรือ Africa CDC แจ้งว่า ยอดผู้ติดเชื้อฝีดาษวานร หรือเอ็มพ็อกซ์ ในแอฟริกา นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ มีจำนวนมากกว่ายอดผู้ติดเชื้อในปี 2566 ทั้งปี

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา หรือ Africa CDC แถลงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงวันที่ 17 สิงหาคม มีรายงานผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรใน 12 ประเทศจากสมาชิกสหภาพแอฟริกา ทั้งหมด 55 ประเทศที่ 18,737 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 3,101 คน และผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ15,636 คน ส่วนผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตอยู่ที่ 541 คน คิดเป็นอัตราเสียชีวิตร้อยละ 2.89 ตัวเลขเหล่านี้ครอบคลุมเชื้อไวรัสเอ็มพ็อกซ์ทั้ง 3 สายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์พบใหม่ที่แพร่ง่ายและอันตราย อย่างสายพันธุ์เคลด 1 บี (Clade 1b)

สายพันธุ์ดังกล่าวเริ่มระบาดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เมื่อเดือนกันยายน 2566 และยังคงเป็นศูนย์กลางของการระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยพบผู้ป่วยหมดทั้ง 26 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงพบการระบาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง

นอกจากนี้ ยังแพร่ระบาดออกนอกภูมิภาคแอฟริกา เพราะพบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วในสวีเดนและปากีสถาน องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมให้เอ็มพ็อกซ์เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ
ส่วนปากีสถาน เร่งตรวจเข้มคัดกรองผู้โดยสารตามสนามบินต่าง ๆ หลังมีรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษวานร ที่เดินทางกลับมาจากประเทศในอ่าวเปอร์เซีย โดยที่ท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ ในนครการาจี  ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของปากีสถาน มีการพ่นยาฆ่าเชื้อ ทั่วทั้งสนามบิน พร้อมตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศ โดยองค์การอนามัยโลก ได้ประเมินกระบวนการคัดกรองผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาถึงปากีสถาน และตรวจสอบห้องแยกตัวผู้ป่วย ที่จะมีการประเมินประวัติการเดินทาง และอาการของบุคคลเหล่านี้ ซึ่งหากตรวจพบอาการ จะมีการเก็บตัวอย่าง และทดสอบพีซีอาร์ (PCR) ด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของปากีสถาน ยืนยันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส"ฝีดาษวานรอย่างน้อย 1 คน ที่เดินทางกลับมาจากประเทศในอ่าวเปอร์เซีย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือเป็นกลุ่มที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2565