วันที่ 18 พฤษภาคม 2568
18 พ.ค. 2568 14:39 | 112 view
18 พฤษภาคม 2568 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า หลังจากศึกษามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับงบ สตง. ล่าสุด วันนี้จึงได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีลงวันที่ 11 ก.พ.2568 ที่อนุมัติเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จากเดิมวงเงิน 76,800,000 บาท เป็นวงเงิน 84,371,916 บาท นั้น ยังมีผลอยู่หรือไม่ หลังจากอาคาร สตง. ถล่มทั้งตึก มติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ได้ยกเลิก หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า มติ ครม.ดังกล่าว มีความเห็นของกระทรวงคลัง และสำนักงบประมาณ รวมอยู่ด้วย ล้วนเป็นตัวหนังสือที่ประกอบด้วยข้อกฎหมายและความเห็นที่มีลักษณะเหมือนกับมติ ครม.เรื่อง อื่นๆ คือ มีแต่คำแนะนำ ข้อเสนอ แต่ไม่พบการตรวจสอบข้อบกพร่องแต่อย่างใด ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ขาดประสบการณ์เรื่องบริหารราชการแผ่นดินก็คงยากที่จะเข้าใจกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ
นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้จึงยกมติ ครม. วันที่ 11 ก.พ. 2568 เรื่อง เพิ่มวงเงินให้ สตง. มาสรุปให้นายกรัฐมนตรีได้นำไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตามความในหนังสือที่เกี่ยวข้อง 4 ฉบับ ดังนี้
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2567 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินโดยนายมณเฑียร เจริญผล ได้มีหนังสือที่ ตผ 0013/9610 ขอเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จากเดิมวงเงิน 76,800,000 บาท เป็นวงเงิน 84,371,916 บาท
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2568 กระทรวงการคลังโดยนายพิชัย ชุณหวชิร มีความเห็นว่า เพื่อให้งานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ได้มีการควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรม มีความถูกต้อง ครบถ้วน ตามแบบรูปรายการรายละเอียดและข้อกำหนดของสัญญา ทำให้อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินับการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง การดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการที่ก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลังในอนาคต พ.ศ. 2561 เรียบร้อยแล้ว จึงเห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จากเดิมวงเงิน 76,800,000 บาท เป็นวงเงิน 84,371,916 บาท ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ
ทั้งนี้ ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2568 สำนักงบประมาณโดยนายอนันต์ แก้วกำเนิด ขอเรียนว่า รายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ เป็นรายการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 วงเงินตามสัญญา จำนวน 74,653,200 บาท และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้มีมติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจาก พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 เป็น พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2569 เนื่องจากมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณให้สอดคล้องกับระยะเวลาของการก่อสร้าง กรณีงานรื้อถอนสิ่งก่อสร้างเดิมและแก้ไขแบบก่อสร้าง ส่งผลให้วงเงินของรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น ซึ่งสำนักงบประมาณได้พิจารณาความเหมาะสมของราคาค่าควบคุมงานรายการดังกล่าว ภายในกรอบวงเงิน 9,718,716 บาท
ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ สามารถดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ จึงเห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จากวงเงินเดิมที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันไว้เดิมจำนวน 76,800,000 บาท เป็นวงเงิน 84,371,916 บาท ตามนัยข้อ 7 (3) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 สำหรับวงเงินของรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างที่เพิ่มเติมดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินสมทบเงินงบประมาณรายจ่าย ร้อยละ 30 และใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่าย ร้อยละ 70 โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และสัญญาที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน และต่อรองราคาตามสัดส่วนผลงานที่ผู้ให้บริการได้เข้าควบคุมงานจริงจนถึงที่สุดด้วย เพื่อจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
ต่อมา เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2568 ตามหนังสือที่ นร 0505/3895 สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรียน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน โดยมีความสำคัญสรุปได้ว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2568 อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณและให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรับความเห็นของกระทรวงการคลังไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
นายเรืองไกร กล่าวทิ้งท้ายในหนังสือว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2568 ต่อมาเพียงเดือนเศษ คือวันที่ 28 มีนาคม 2568 อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) ก็ได้ถล่มลงมาจนเสียหายทั้งอาคาร ดังความที่ควรทราบโดยทั่วไปแล้วนั้น
ข่าว
18 พ.ค. 2568 15:01 110 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 14:55 116 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 14:49 107 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 14:45 96 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 14:42 114 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 14:39 113 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 10:48 152 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 10:45 154 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 10:38 296 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 10:31 223 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 10:28 146 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 10:24 167 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 10:16 181 views
ข่าว
18 พ.ค. 2568 10:12 189 views
ข่าว
17 พ.ค. 2568 17:23 285 views
ข่าว
17 พ.ค. 2568 17:17 223 views