นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ณ วันนี้ทหารและรัฐบาลยังทำงานร่วมกันอย่างดี ไม่มีอะไร ยืนยันอีกครั้งว่าการทำงานร่วมกับทหารไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) มีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน มีการประเมินสถานการณ์ ว่าต้องคำนึงถึงชีวิตของประชาชนคนไทย และตกลงกันแล้วว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับประเทศกัมพูชา ที่จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน
มีการเตรียมมาตรการไว้ทั้งหมดแล้ว

โดยรัฐบาลได้ประกาศแล้วว่า จะสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ ซึ่งทางทหารมองว่าขณะนี้
ไม่ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ภายในประเทศ แต่ห่วงใยสถานการณ์จากภายนอกประเทศมากกว่า ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ จึงต้องร่วมมือกันภายในชาติอย่างดีที่สุด และกองทัพไม่ได้เป็นห่วงเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองได้พูดคุยกัน และทางกองทัพได้ยืนยันว่า
พร้อมทำงานภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ส่วนกระแสกดดันให้นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เป็นเรื่องภายนอกมากดดัน และคาดหวังที่จะเห็นไทยอ่อนแอที่สุด ต้องการให้ประเทศไทยแตกแยกกันภายใน
 
-- เสียงในคลิป --
(เริ่มที่....ทหารยืนยันว่าพร้อมอยู่ภายใต้......จบที่....ยุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว...เฟสเสียงลงยืดภาพตอนท้ายนิดนึงครับ)

นายภูมิธรรม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย
ยังยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น ไม่มีปัญหา เพราะเข้าใจสถานการณ์ดี
แต่ขณะนี้มีสิ่งที่พยายามสร้างเงื่อนไขทั้งภายในและภายนอก ซึ่งการสร้างเงื่อนไขภายในคือ กลุ่มที่อยากล้มรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนการที่พรรคภูมิใจไทยออกมาพูดเรื่องสถานการณ์ไม่ค่อยเหมาะสม
เพราะรู้ตั้งแต่แรกเรื่องกระบวนการแก้ปัญหากัมพูชานั้น ในฐานะที่เคยร่วมงานกัน
ขออย่าใช้ประเด็นอย่างนี้มาทำเกิดความไม่สบายใจและเกิดความรู้สึกแตกแยก เพราะจะไปเข้าทางสมเด็จฮุน เซน ที่ต้องการให้เกิดความอ่อนแอภายในประเทศ โดยขณะนี้มีเพียงพรรคภูมิใจไทยที่ปล่อยมือจากพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคอื่นได้พูดคุยกันแล้ว
และหากเคลียร์เรื่องนี้ให้ทุกส่วนเข้าใจกัน / เรื่องของการปรับ ครม.จะเป็นเรื่องหลังจากนี้ไป พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ ไม่มีปัญหา และมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ได้จนครบวาระ


ด้าน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวว่า เป็นช่วงเวลาที่คนไทยจะต้องหันมาสามัคคีกันด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อส่งกำลังใจกองทัพ เจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่แนวหน้าได้นอนหลับและมีแรงต่อสู้กับอีกฝ่าย
เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ เพราะเข้าใจว่า สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด
สำหรับจุดยืนของพรรคกล้าธรรม ชี้แจงว่า พรรคฯ ยังไม่ได้ประชุมกัน เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วนอยู่ในพื้นที่ เพื่อดูแลประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ตนเองมีความเห็นว่า
ไม่จำเป็นต้องออกแถลงการณ์ใด ๆ เพราะทุกคนมีจุดยืนเดียวกัน หวงแหนอธิปไตยของประเทศไทยเหมือน ๆ กัน จึงยังคงสนับสนุนนายกรัฐมนตรีอยู่และพร้อมอยู่ข้างคนไทย รวมไปถึงกองทัพ
ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีหลายคนลาออกนั้น นางนฤมล มองว่า ไม่น่ากระทบกับการทำงาน
เพราะแต่ละกระทรวงมีผู้รักษาการทำงานอยู่แล้ว พร้อมปิดท้ายว่า "การเมืองก็เป็นเช่นนี้"
ส่วนนาย วราวุธ ศิลปาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค ว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะยังไม่ถอนตัวจากรัฐบาล เพราะความเข้มแข็งของรัฐบาล จะสร้างความเข้มแข็งให้กับอธิปไตยของประเทศ ซึ่งทุกคนในที่ประชุมได้มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอที่หลากหลาย แต่ทุกคนลงความเห็นในทางเดียวกันว่า ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ การตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากเหตุเพิ่งเกิดเมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้หัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ถึงรายละเอียด ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อว่าอธิปไตยของประเทศ และความมั่นคงของประเทศ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด และไม่ควรตกอยู่ในสภาวะเสี่ยง

และที่ประชุมได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรค เป็นตัวแทนไปพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีในรายละเอียด ว่าเกิดอะไรขึ้น และมีแนวทางอย่างไร หากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ครบถ้วนแล้ว จะนำมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคต่อไป


พรรครวมไทยสร้างชาติ ใช้เวลาการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ประมาณ 2 ชั่วโมง ยังไม่มีการแถลงมติพรรคฯ แต่อย่างใด ว่าจะยังคงยืนยันที่จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อหรือจะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้แจ้งสื่อมวลชนที่ปักหลักรอทำข่าวอยู่บริเวณชั้น 1
ของอาคารที่ทำการพรรคฯ ว่า จะไม่มีแถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารฯ แต่นายพีระพันธุ์
สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะลงมาแถลงมติที่ประชุมฯ ด้วยตนเอง แต่เมื่อ นายพีระพันธุ์ ลงลิฟต์มาบริเวณชั้น 1
ก็ไม่ได้แถลงมติพรรครวมไทยสร้างชาติตามที่ทางพรรคฯ ได้แจ้งไว้
โดยได้เดินฝ่าวงล้อมสื่อมวลชนไปด้วยความรวดเร็ว สื่อมวลชนพยายามสอบถามมติ จนได้รับคำตอบเพียงสั้น ๆ ว่า ขอนำมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ไปกราบเรียนนายกรัฐมนตรีก่อน
 

เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการนัดหมายประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า
ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทีมงานร่างคำแถลงของพรรค ซึ่งจะมีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการและชัดเจนในเร็วๆ นี้
ส่วนจะอยู่ต่อตามชื่อเล่นหรือไม่ นายเฉลิมชัย ไม่ตอบแต่หันมายิ้มให้สื่อมวลชนแทน พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ไม่เคยมีการต่อรองตำแหน่งใดๆ ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ซึ่งการประชุมเมื่อวานนี้เปิดโอกาสให้สมาชิกแสดงความเห็นกันอย่างเต็มที่
ส่วนมติที่ออกมาจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย ตอบกลับว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยขัดแย้งด้วย

เหรอ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมฯ เห็นชอบให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลต่อ
จบตัด