ผู้นำ BRICS หนุนปฏิรูปสถาบันโลก ประณามโจมตีกาซา-อิหร่าน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันระดับโลก อาทิ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พร้อมกับประณามการโจมตีฉนวนกาซาและอิหร่าน

การประชุมสุดยอดผู้นำ BRICS นี้ถือเป็นการประชุมผู้นำกลุ่มครั้งแรกที่มีอินโดนีเซียเข้าร่วมด้วย ประธานาธิบดีหลุยส์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล กล่าวในพิธีเปิดที่จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในนครริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ว่ากลุ่ม BRICS เป็นผู้สืบทอดของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non-Aligned Movement) ที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาปฏิเสธที่จะเลือกข้างในช่วงยุคสงครามเย็น และความเป็นอิสระกำลังเจอกับบททดสอบ ท่ามกลางระบบพหุภาคีที่กำลังถูกโจมตี

ลูลากล่าวกับบรรดาผู้นำธุรกิจว่าประเทศสมาชิก BRICS คิดเป็นมากกว่าครึ่งของประชากรทั้งหมดของโลก และคิดเป็น 40% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจของโลก โดยขณะนี้สมาชิกของ BRICS ได้เพิ่มขึ้นเป็น รัสเซีย บราซิล อินเดีย จีน อียิปต์ เอธิโอเปีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่ยังมีอีก 30 ประเทศแสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกและพันธมิตรของกลุ่ม BRICS

แถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำ BRICS ระบุว่า BRICS เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันระดับโลก เช่น UNSC และ IMF ซึ่งประธานาธิบดีลูลา ดา ซิลวาของบราซิลกล่าวว่า หากธรรมาภิบาลระหว่างประเทศไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงใหม่ของโลกหลายขั้วอำนาจในศตวรรษที่ 21 ทาง BRICS จะช่วยในเรื่องดังกล่าวให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยคำกล่าวของลูลา ดา ซิลวา สะท้อนถึงความล้มเหลวของการทำสงครามในตะวันออกกลางที่สหรัฐล้วนมีส่วนเกี่ยวข้อง

แถลงการณ์ร่วมของ BRICS ยังมีการประณามการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนของอิหร่าน และศูนย์ปฏิบัติการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่มุ่งสันติภาพ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลความปลอดภัยของ ทบวงการพลังงานปรมาณระหว่างประเทศ (IAEA) ทาง BRICS ยังแสดงความกังวลต่อชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ท่ามกลางการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา รวมถึงประณามการโจมตีที่เป็นการก่อการร้ายในพื้นที่แคชเมียร์ในฝั่งของประเทศอินเดีย

สำหรับเรื่องการค้า แถลงการณ์ดังกล่าวยังเตือนถึงการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรตามอำเภอใจที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าโลก ทาง BRICS ยังสนับสนุนให้เอธิโอเปียและอิหร่านเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) และขอให้ WTO เร่งฟื้นขีดความสามารถในการแก้ไขข้อพิพาททางการค้า และยังสนับสนุนแผนค้ำประกันการลงทุนพหุภาคี หรือ BRICS Multilateral Guarantees ซึ่งเป็นแผนริเริ่มของธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank) เพื่อลดต้นทุนทางการเงินและกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศสมาชิก

นักการทูตคนหนึ่งของบราซิลกล่าวว่า ขณะที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี7) หรือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก 20 ประเทศ (จี20) เจอกับความเห็นที่ไม่ตรงกันภายในและผลกระทบจากนโยบาย อเมริกาต้องมาก่อน ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ การขยายกลุ่ม BRICS ได้เปิดช่องทางใหม่ของการประสานงานทางการทูต และช่องว่างเหล่านั้นของกลุ่มความร่วมมืออื่นๆ ถูกแทนที่โดย BRICS แทบจะทันที แม้ว่าจี7จะยังกุมอำนาจส่วนใหญ่ แต่จี7มีอิทธิพลน้อยลงกว่าในอดีต

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนไม่ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ BRICS ในปีนี้ โดยส่งนายกรัฐมนตรีจีนเข้าร่วมแทน ขณะนี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียเข้าร่วมการประชุมในรูปแบบออนไลน์ จากการถูกหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ

ประธานาธิบดีปูตินกล่าวกับผู้นำกลุ่ม BRICS ว่าตอนนี้ได้หมดยุคสมัยของโลกาภิวัตน์เสรีนิยมและอนาคตจะเป็นของตลาดกำลังเกิดใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว