วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2568
29 ก.ค. 2568 11:01 | 370 view
@yaovarest
โซเชียลไทยเดือดจัด รีบแปลแคมเปญ#TruthFromThailand ทั้งหมด 14 ภาษา ให้นานาชาติรับทราบข้อเท็จจริง หลังกัมพูชาเมินข้อตกลงหยุดยิง แถมยังปั่นเฟคนิวส์ระดับโลกใช้ภาพเครื่องบินโปรยสารเคมีสีชูมพูดับไฟป่าแคลิฟอร์เนียใส่ร้ายกองทัพไทย
สถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาได้ทวีความเข้มข้นขึ้นในสมรภูมิข้อมูลข่าวสาร เมื่อโลกโซเชียลไทยเดือดสุด โดยเฉพาะผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) หลังโดยกัมพูชา เฟคนิวส์มาต่อเนื่อง ล่าสุดจึงรวมพลังเปิดปฏิบัติการ #TruthFromThailand เพื่อตอบโต้ความพยายามอย่างต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง และใส่ร้ายประเทศไทยอย่างร้ายแรงต่อนานาชาติ
กัมพูชาเมินข้อตกลงหยุดยิง จับมือไม่ถึงวันก็ละเมิด
ท่ามกลางความตึงเครียด โลกได้จับตามองการเจรจาเร่งด่วนระหว่างไทย กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ได้นั่งหัวโต๊ะการเจรจาร่วมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของไทย และ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมด้วยตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาและจีนเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ผลการเจรจาได้ข้อสรุปที่น่ายินดีว่า "ไทย-กัมพูชา" เห็นชอบตกลงหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคมเป็นต้นไป พร้อมภาพการจับมือกันระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก
แต่ทว่า สันติภาพยังไม่ทันข้ามคืน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังข้อตกลงมีผลบังคับใช้ มีรายงานยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงอย่างสิ้นเชิง โดยมีการยิงปืนและอาวุธต่างๆ เข้ามาในฝั่งไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม จนถึงเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม ถือเป็นการกระทำที่ยั่วยุอย่างชัดเจนและบ่อนทำลายความไว้วางใจและความพยายามสร้างสันติภาพในภูมิภาคอย่างร้ายแรง
แฉกลลวง "ภาพตัดต่อ" ใส่ร้ายกองทัพไทยด้วยเฟคนิวส์ระดับโลก
นอกจากการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหม และกลุ่มInfluencer กัมพูชา ได้แถลงข่าวเฟคนิวส์ใส่ร้ายประเทศไทยอย่างเป็นระบบ โดยการนำภาพเครื่องบินที่กำลังโปรยสารเคมี สีชมพู พร้อมข้อความกล่าวหาว่ากองทัพไทยใช้ "สารพิษ" โจมตีทหารและประชาชนกัมพูชาอย่างไร้มนุษยธรรม
แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดจากกองทัพ และโลกโซเชียล พบว่าภาพดังกล่าวเป็น "ข้อมูลเท็จ" อย่างสิ้นเชิง โดยเป็นภาพข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) ที่บันทึกเหตุการณ์ เครื่องบินดับเพลิงกำลังทิ้งสารหน่วงไฟสีชมพูเพื่อควบคุมไฟป่าพาลิซาเดส (Palisades Fire) ในเขตลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นภาพที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกองทัพไทย การกระทำเช่นนี้จึงเป็นการจงใจสร้างเรื่องเท็จเพื่อหลอกลวงประชาชนของตนเองและประชาคมโลกให้เกิดความเกลียดชังต่อประเทศไทย ซึ่งสมควรได้รับการประณามอย่างที่สุด
"ความจริงจากประเทศไทย" #TruthFromThailand ตอบโต้ด้วยหลักฐาน
เพื่อต่อสู้กับการโจมตีด้วยข้อมูลเท็จ ชาวโซเชียลไทยได้ร่วมมือกันรวบรวมหลักฐานจากรายงานของทางการและกองทัพบก สรุปเป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญ เพื่อชี้แจงต่อประชาคมโลกอย่างตรงไปตรงมา ดังนี้:
ปฏิบัติการแปล 14 ภาษา กระจายความจริงสู่ชาวโลก
ปฏิบัติการของชาวเน็ตไทยไม่ได้หยุดอยู่แค่การตอบโต้ แต่ได้ยกระดับเป็นการสร้างความเข้าใจในเชิงรุก โดยมีการสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดแปลออกเป็น 14 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, อินเดีย, บราซิล, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, จีน, เกาหลี, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ลาว, พม่า และสเปน พร้อมข้อความหลักที่ทรงพลังว่า:
"Here are the FACTS from Thailand the world needs to KNOW! - Cambodians launched an initial attack! - Cambodians attacked Thai hospital/ school, many civilians killed!! including KIDS!! - Cambodians used civilians as HUMAN SHIELD!!"
(นี่คือข้อเท็จจริงจากประเทศไทยที่โลกจำเป็นต้องรู้! - กัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน! - กัมพูชาโจมตีโรงพยาบาล/โรงเรียนของไทย พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก!! รวมถึงเด็ก!! - กัมพูชาใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์!!)
เหตุการณ์นี้คือเครื่องพิสูจน์ว่า สงครามยุคใหม่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสนามรบ แต่ "สงครามข่าวสาร" คือสมรภูมิสำคัญที่กำหนดภาพลักษณ์และความชอบธรรมของชาติ กองทัพไทยยังคงยืนหยัดปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้วภายใต้หลักมนุษยธรรม ขณะที่ภาคประชาชนไทยได้แสดงพลังอันน่าทึ่งในการปกป้องเกียรติภูมิของประเทศด้วยความจริง
#TruthFromThailand
#RespectInternationalLaw
#StandWithThailand
#TeamThailand
#CambodiaOpenedFire
#cambodiaopenedfirefirst
#CambodiaisAwarCriminal
#HunSenisAwarCriminal
#CambodiaViolatesOttawaConvention
#HunSenWarCriminal
ข่าว
30 ก.ค. 2568 15:51 141 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 15:37 119 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 15:25 102 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 15:03 95 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 14:59 119 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 14:40 144 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 14:20 116 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 13:58 104 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 12:54 494 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 12:31 293 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 11:34 144 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 11:27 161 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 11:11 149 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 10:50 323 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 10:44 190 views
ข่าว
30 ก.ค. 2568 10:40 203 views