/// เปิดหน้า /// วันนี้ยังคงมีการประชุมของกองเลขานุการ (RBC) ระหว่างไทย - กัมพูชา ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่าย ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในข้อเสนอต่างๆ ด้านกองทัพภาคที่ 2 ตั้งเต๊น เตรียม พร้อมการประชุมกลางแจ้ง ระหว่างพรมแดน ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
เทป … ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงํา อําเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พรุ่งนี้แล้วที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย - กัมพูชา ด้านกองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกําหนดการก็จะมีการเตรียมการประชุมของกองเลขานุการตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนที่ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และ พลเอก โปว เฮง รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 จะได้ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย - กัมพูชา ด้านกองทัพภาคที่ 2 และ ภูมิภาคทหารที่ 4 สมัยวิสามัญ อย่างเป็นทางการ ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้มีการจัดเตรียมสถานที่ ตั้งเต๊นท์กลางแจ้ง ระหว่างพรมแดนทั้งสองประเทศรองรับการประชุมที่จะมีขึ้น ตามที่ฝ่ายกัมพูชาร้องขอ /

โดยตั้งแต่บ่ายวันนี้ มีการหารือของ กองเลขานุการของคณะทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งพลตรี กิตติศักดิ์ ถาวร เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2/ได้เป็นประธานกองเลขานุการ ทั้งนี้การหารือระหว่าง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ โดยแหล่งข่าวเผยว่า ฝ่ายไทยยังคงยึดหลักข้อตกลงหยุดยิงทั้ง 13 ข้อ จากผลการประชุม GBC ที่ผ่านมา
และมีข้อเสนอเรื่องทุ่นระเบิดเพิ่มเติม ซึ่งทางกัมพูชาได้รับกลับไปพิจารณา ขณะเดียวกันฝ่ายกัมพูชาคาดว่ามีข้อเสนอเช่นเดียวกัน /

ซึ่งขณะนี้ทางกัมพูชาได้กลับไปพิจารณาข้อเสนอต่างๆอยู่
และจะเดินทางกลับมายื่นข้อเสนอให้ฝ่ายไทยทราบอีกครั้ง ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันในระดับเลขานุการ จะมีการเซ็นรับทราบผลการหารือกันระหว่างเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 และเสนาธิการภูมิภาคทหารที่ 4 เพื่อนําผลการหารือเข้าที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ /

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้ออกแถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยตรวจพบโดรน ในพื้นที่ตอนใน 1 ครั้ง 1 ลํา พื้นที่ ชายแดน 8 ครั้ง 9 ลํา ปัจจุบันกองกําลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกําลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกําลังพลประจําจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์ โดยเชื่อมั่นว่าการประชุม RBC ที่กําลังจะมีขึ้น จะเป็นโอกาสสําคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือ
ลดความตึงเครียด เพื่อสร้างบรรยากาศที่เกื้อกูลต่อสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา

นอกจากนี้ยังแจงถึงกรณีที่ปรากฏข่าวสารในสื่อออนไลน์
ถึงการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว จํานวน 7 แห่ง ในพื้นที่อําเภอเมืองสุรินทร์ เพื่อรองรับประชาชนที่อพยพจากอําเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ว่า ศูนย์ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับและดูแลประชาชนในกลุ่มเปราะบาง
และประชาชนบางส่วนที่ยังมีความกังวลต่อสถานการณ์
โดยขณะนี้มีประชาชนจากอําเภอกาบเชิง อพยพเข้ามาในพื้นที่อําเภอเมืองสุรินทร์ ประมาณ 200 คน
โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า สถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงเป็นไปตามปกติ
ไม่มีเหตุการณ์ปะทะระหว่างกําลังทหารไทยกับกัมพูชา
จึงขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐและแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการเท่านั้น
เพื่อป้องกันการสับสนจากข่าวลือหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน


ออกตัว....จบ