×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันที่ 7 กันยายน 2568

?>

กรมฝนหลวงเร่งแก้แล้ง แก้ปัญหาภัยร้าย ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรไทย ยืนยัน น้ําจากฝนหลวงมีคุณภาพไม่แตกต่างจากน้ําฝนธรรมชาติ สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้ทั้งการอุปโภคบริโภคและด้านการเกษตร

 7 ก.ย. 2568 12:20 | 124 view

 @[email protected]

Facebook X Share

  
กรมฝนหลวงเร่งแก้แล้ง แก้ปัญหาภัยร้าย ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรไทย ยืนยัน น้ําจากฝนหลวงมีคุณภาพไม่แตกต่างจากน้ําฝนธรรมชาติ สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้ทั้งการอุปโภคบริโภคและด้านการเกษตร


7 กันยายน 2568 นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยเป็นที่ 1 ของโลกเรื่องการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อให้กลายเป็นฝน หลายประเทศให้ความสนใจและเข้ามาเรียนรู้ แต่การนําไปใช้ยังมีน้อย เนื่องจากการขึ้นบินเพื่อทําฝนหลวงแต่ละครั้งต้องใช้ความเชี่ยวชาญและมีปัจจัยสภาพอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ ก้อนเมฆในขณะนั้นด้วย หากเห็นก้อนเมฆแล้วต้องรีบโจมตี เพื่อไม่ให้ก้อนเมฆสลาย

ทั้งนี้การทําฝนหลวงจะใช้เครื่องบินอย่างน้อย 3 ลํา การขึ้นบินครั้งแรก คือการก่อกวน ต่อมาการขึ้นบินเพื่อเลี้ยงเมฆให้อ้วน และการขึ้นบินครั้งที่ 3 คือการโจมตีก้อนเมฆเพื่อให้เกิดฝน ดังนั้นหากมีเครื่องบินเพียงลําเดียวก็ต้องขึ้นบิน 3 เที่ยว ซึ่งเปอร์เซนต์ได้ฝนก็จะลดลงเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องบิน3 ลําที่สามารถโจมตีได้เร็วขึ้นซึ่งการขึ้นบินแต่ละครั้งจะมีเจ้าหน้าที่ประจําเครื่องอย่างน้อย 7 คน ประกอบด้วยนักบิน 2 คน นักวิทยาศาสตร์ 1 คน เจ้าหน้าที่ผสมสาร 2 คนและ เจ้าหน้าที่โปรยสาร 2 คน สารที่ใช้ในกระบวนการทําฝนหลวงเช่น เกลือทะเล เกลือสินเธาว์ สารประกอบแคลเซียม ยูเรีย น้ําแข็งแห้ง และซิลเวอร์ไอโอไดด์ ซึ่งจะใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้กระบวนการเกิดฝนตกได้จริง โดย การก่อกวน สารที่ใช้คือเกลือแกง (NaCl) หรือโซเดียมคลอไรด์เป็นเกลือที่พบทั่วไปในธรรมชาติและใช้ประกอบอาหาร ปริมาณที่ใช้ไม่มาก ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การเลี้ยงให้อ้วน สารที่ใช้ คือแคลเซียมคลอไรด์ (Calcium Chloride) และแคลเซียมออกไซด์ (Calcium Oxide) ซึ่งไม่ได้เป็นสาเหตุของการปนเปื้อนโลหะหนักในน้ําฝน และปริมาณที่ใช้ไม่มาก ในขั้นของการโจมตีแบบแซนวิช สารที่ใช้คือเกลือแกง (NaCl), ยูเรีย (Urea) ซึ่งในส่วนของยูเรีย เป็นปุ๋ยที่ใช้ทางการเกษตรอยู่แล้ว ในการปฏิบัติการฝนหลวงใช้ในปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบปริมาณเมฆที่ทําการปฏิบัติการในขั้นของการโจมตี สารที่ใช้คือ น้ําแข็งแห้ง แม้จะเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ระเหิดจะคืนสู่ชั้นบรรยากาศ แต่จะไม่กระทบกับชั้นบรรยากาศ เพราะปริมาณที่ใช้ในการปฏิบัติการฝนหลวงน้อยมาก เมื่อเทียบกับ คาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมอื่น จึงไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการโจมตีเมฆเย็นด้วย Agl สารที่ใช้เป็นพลุ (Silver Iodide, AgI) ซึ่งมีการถกเถียงมากที่สุด เนื่องจากพลุเป็นสารอนินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ํา และมีฤทธิ์เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตบางชนิดในปริมาณสูงโดยปริมาณที่ใช้ในการทําฝนหลวงถือว่าน้อยมาก หลักกรัมต่อรอบปฏิบัติการ กระจายตัวกว้างในชั้นบรรยากาศ ทําให้ระดับความเข้มข้นที่ตกสู่พื้นดินต่ํามากจนแทบไม่ก่ออันตรายและในขั้นการโจมตีแบบซุปเปอร์แซนวิช เป็นการปฏิบัติการในขั้นตอนที่ 3,4,5 พร้อมกันและทําให้เกิดฝน

สําหรับน้ําฝนที่ได้จากการทําฝนหลวง หลายฝ่ายมีความกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อการอุปโภคบริโภคและสิ่งแวดล้อมนั้น จากผลการศึกษาผลตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ําฝน พบว่า น้ําฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวง มีคุณภาพไม่แตกต่างจากน้ําฝนธรรมชาติและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ําบริโภคขององค์การอนามัยโลก (WHO) มาตรฐานคุณภาพน้ําเพื่อการเกษตรขององค์การอาหารและการเกษตร แห่งสหประชาชาติ (FAO)และมาตรฐานของหน่วยงานในประเทศไทย มาตรฐานน้ําบริโภคของไทย มาตรฐานน้ําบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมน้ําบริโภคตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม จึงสามารถนําไปใช้อุปโภคบริโภค ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ เหมือนน้ําฝนธรรมชาติทั่วไป ไม่มีสารตกค้างในปริมาณที่เป็นพิษภัยต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม รวมทั้งกิจกรรมของประชาชนแตกต่างจากอดีต จึงจําเป็นต้องเฝ้าระวังคุณภาพน้ําฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและสังคมในการใช้น้ําฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวง ในการอุปโภคบริโภคและการใช้ประโยชน์ทางการเกษตร

“น้ําฝนหลวงสามารถดื่มได้แน่นอนเนื่องจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตรระบุว่าได้มีการตรวจวิเคราะห์แล้วว่าน้ํามีความบริสุทธิ์อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ําดื่มน้ําใช้ขององค์การอนามัยโลกและไม่มีอันตรายต่อคน สัตว์ และพืช สารที่ใช้ในการทําฝนหลวงเป็นสารธรรมชาติที่ไม่มีอันตรายและใช้ในปริมาณน้อยมากจึงไม่ก่อให้เกิดพิษภัยต่อสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อม” นายราเชน กล่าว

สําหรับผลปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 26 สิงหาคม 2568ได้ปฏิบัติการฝนหลวง จํานวน 161 วัน 2,065 เที่ยวบิน 2,908 ชั่วโมง 29 นาทีปริมาณสารที่ใช้ปฏิบัติการฝนหลวง จํานวน 1,635.15 ตัน และ พลุ (Flare) จํานวน 965 นัดมีฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวง 95.65% โดยการปฏิบัติการฝนหลวงแก้ปัญหาภัยแล้ง สามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรได้ 141.94 ล้านไร่ มีฝนตกในพื้นที่ 63 จังหวัด

ทั้งนี้เพื่อความแม่นยําในการทําฝนหลวง ขณะนี้กรมฝนหลวงอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ําแข็งแห้ง 5 แห่ง กําลังการผลิต 1ตันต่อชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้ทําฝนหลวงได้สะดวกขึ้น จากเดิมที่ต้องรับบริจาค จากบริษัท ปตท.จํากัด (มหาชน) โดยมีที่ตั้ง ที่ จ.ตาก พิษณุโลก ขอนแก่น บุรีรัมย์และเพชรบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นเดือน ต.ค.นี้

ขณะที่การพัฒนาของฝนหลวง ปัจจุบันหลายประเทศ เช่น จีน การใช้จรวดดัดแปรสภาพอากาศ(Weather Modification Rockets) เพื่อการโปรยสารเคมีเข้าสู่กลุ่มเมฆแทนการใช้เครื่องบิน ซึ่งมีข้อดี คือมีต้นทุนต่ํากว่าเครื่องบิน ทํางานได้แม้ในพื้นที่เสี่ยงภัยการบิน เช่น เขตภูเขาสูง หรือสภาพอากาศเลวร้าย เข้าถึงพื้นที่ได้รวดเร็ว สามารถยิงจากสถานีภาคพื้นดินแต่วิธีการนี้การควบคุมตําแหน่งแม่นยํา น้อยกว่าเครื่องบินโดยจรวดเมื่อยิงขึ้นไปแล้ว ไม่สามารถปรับเส้นทางเหมือนเครื่องบินได้ ข้อจํากัดด้านกฎหมายและความปลอดภัยต้องระวังพื้นที่ยิงจรวด เพราะอาจตกกระทบประชาชนหรือทรัพย์สิน ต้องใช้กับสภาพภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ราบกว้างเหมาะสม แต่พื้นที่ประเทศไทยซับซ้อนและมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศอาจมีข้อจํากัด

โดยการใช้จรวดในการดัดแปรสภาพอากาศของประเทศไทยยังคงต้องพัฒนาต่อไป ก่อนที่จะนํามาใช้จริง เนื่องจากประเทศไทยมีภูมิประเทศที่ซับซ้อน มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่เกือบทุกพื้นที่ ต้องพัฒนาระบบการควบคุมตําแหน่งให้มีความแม่นยําสูง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อประชาชน และกระทบต่อความมั่นคงของประเทศต่อประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นวิธีการนี้เป็นอีกทางเลือกเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงด้วยเครื่องบิน ไม่ได้มาแทนที่การใช้เครื่องบินฝนหลวงทั้งหมด.

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

“พริษฐ์” แนะฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล มากกว่าฟ้องศาล

7 ก.ย. 2568 17:06 118 views

ข่าว

“อนุทิน” ดึงอดีตผู้บริหารกรุงไทย เสริมทีมเศรษฐกิจ

7 ก.ย. 2568 17:03 132 views

ข่าว

ฝนถล่มตาก! ดินสไลด์ปิดถนนแม่สอด–อุ้มผาง

7 ก.ย. 2568 16:44 94 views

ข่าว

สยอง! ชายออสซี่ เจอฉลามกัด ขณะเล่นเซิร์ฟ ก่อนสิ้นใจคาหาด

7 ก.ย. 2568 16:12 132 views

ข่าว

"สีหศักดิ์"แย้ม คุยนโยบายต่างประเทศกับ"นายกฯ"บ้างแล้ว ยันยึดสันติ-รักษาอธิปไตยถึงที่สุด

7 ก.ย. 2568 15:57 115 views

ข่าว

‘นายกฯ’เผยโผครม.เสร็จแล้วกว่า 99.9725% ยังอุบวางใครนั่ง‘กลาโหม-ยุติธรรม’

7 ก.ย. 2568 15:47 134 views

ข่าว

อนุทิน ประกาศภารกิจด่วน 4 ด้านของนายกฯ

7 ก.ย. 2568 15:29 853 views

ข่าว

 ผลสํารวจนิด้าโพล เกินครึ่งเห็นด้วยยุบสภาเร็วที่สุด

7 ก.ย. 2568 14:32 125 views

ข่าว

‘อนุทิน’แถลงเปิดใจครั้งแรก ให้คํามั่นประชาชนพร้อมแก้สารพัดปัญหาประเทศทุกด้าน เผยควบเก้าอี้‘มท.1’สานงานต่อ ลั่นไม่ได้มาด้วยทุนใคร สิ่งเดียวที่ต้องตอบแทนคือประชาชน รับประกันจะไม่มีการ‘แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม’ ไร้‘ยัดเยียด-ปรุงแต่ง’เหมือนที่เคยมีคนทํามา พร้อม‘ยุบสภาฯ’ใน 4 เดือน

7 ก.ย. 2568 14:03 149 views

ข่าว

สดุดีทหารไทยปฏิบัติภารกิจสันติภาพ กลับจากเซาท์ซูดาน 

7 ก.ย. 2568 12:26 123 views

ข่าว

กรมฝนหลวงเร่งแก้แล้ง แก้ปัญหาภัยร้าย ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรไทย ยืนยัน น้ําจากฝนหลวงมีคุณภาพไม่แตกต่างจากน้ําฝนธรรมชาติ สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้ทั้งการอุปโภคบริโภคและด้านการเกษตร

7 ก.ย. 2568 12:20 125 views

ข่าว

โปรดเกล้าฯ "อนุทิน" เป็นนายกรัฐมนตรี

7 ก.ย. 2568 12:18 140 views

ข่าว

ปม MOA ยุบสภา–แก้ รธน. ส.ส. ร้องศาลรธน. วินิจฉัย

7 ก.ย. 2568 12:09 229 views

ข่าว

ไทยเจอฝนถล่มทั่วประเทศ กทม.–ภาคกลาง–ตะวันออก หนักสุด

7 ก.ย. 2568 10:46 181 views

ข่าว

แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ชายแดน มอบขวัญกําลังใจทหาร

7 ก.ย. 2568 10:43 140 views

ข่าว

เปิดใจครั้งแรก! พี่เลี้ยง'อนุทิน'สมัยป.3เผยนิสัย-ของกินที่ชอบ ภูมิใจวันนี้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

7 ก.ย. 2568 10:42 217 views