//ทีมโฆษกกองทัพภาคที่ 1 เผยแพร่ข้อความสรุปเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 11
กันยายนที่ผ่านมา โดยไล่เรียงจากเวลา 13.45 คณะ IOT เดินทางถึงบ้านหนองหญ้าแก้ว อําเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อฟังบรรยายสรุปสถานการณ์จาก ผู้บังคับหน่วย//เฉพาะกิจที่ 12 และได้ลงพื้นที่พูดคุย บริเวณเเนวลวดหนามป้องกันตนเอง บ้านหนองหญ้าเเก้ว
ซึ่งคณะได้ตรวจพื้นที่ ที่ฝ่ายกัมพูชาพยามยาม//รื้อเเนวลวดหนาม
และได้เดินทางกลับในเวลา 15.10 น. จากนั้นเวลา 16.00 น. ฝ่ายไทย เข้าเสริมเเนวป้องกัน ให้มั่นคง เเข็งเเรงยิ่งขึ้น และฝ่ายกัมพูชา นําประชาชน
ผู้ชาย //ผู้หญิง เด็ก พระสงฆ์ เข้ามากดดันบริเวณแนวลวดหนามในทันที ซึ่งจากภาพถ่ายทางอากาศตรวจพบ ขบวนรถจํานวน 6 คัน ของฝ่ายกัมพูชา คาดว่า เป็นการเพิ่มเติมกําลัง
//ซึ่งระหว่างนั้นฝ่ายกัมพูชาเริ่มเปิดฉากรื้อแนวลวดหนาม โดยฝ่ายไทยนํากําลัง
ชุดควบคุมฝูงชนเข้าควบคุมสถานการณ์ ปฏิบัติตามกฎการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก เริ่มต้นจากการแจ้งเตือน พร้อมใช้แก๊สน้ําตา //และกระสุนยาง ซึ่งประชาชนกัมพูชา ได้ขว้างไม้ ก้อนหิน หนังสติก กระทําต่อฝ่ายไทย ชุดควบคุมฝูงชนได้ใช้ รถ LRAD แก๊สน้ําตา กระสุนยาง สลายการชุมนุม
เป็นเหตุให้//ชาวบ้านกัมพูชาถอยออกจากเเนวปะทะ เนื่องจาก เเก๊สน้ําตา และในเวลา
16.45 ฝ่ายไทยดําเนินการวางแนวลวดหนามและเสริมความมั่นคงด้วยยางรถยนต์
ประชาชนกัมพูชา ยังปักหลักในพื้นที่ และตะโกน ต่อว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย
อย่างต่อเนื่อง //และพากันปลุกระดมให้ต่อต้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย
ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ประกาศแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลาให้เจ้าหน้าที่กัมพูชาดูแลประชาชนของฝ่ายตนเองให้อยู่ในความสงบ และใช้เครื่องส่งคลื่นสัญญาณเสียง เพื่อจะสลายการชุมนุมของประชาชนกัมพูชา

//ทั้งนี้จากเหตุการณ์ บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายไทยได้ใช้มาตรการควบคุมฝูงชน
ปฏิบัติในพื้นที่ ทําให้สถานการณ์คลี่คลายลงและยังคงเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์
ฝ่ายกัมพูชายังคงมีมวลชนบางส่วน//ที่ยังปักหลักดูสถานการณ์ในพื้นที่


/////จบตัด////