วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568
27 ก.ย. 2568 09:50 | 849 view
@juthamas
กองทัพบกย้ําข้อเท็จจริง ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ไม่ใช่ความขัดแย้งของประชาชน แต่เป็นผลจากการละเลยและเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการสร้างปัญหาซ้ําซากเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
จากการที่วานนี้ (26 ก.ย. 68) สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความกล่าวถึงเรื่องการปักปันเขตแดนระหว่างไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคําชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทําให้สาธารณชนเกิดความสับสน
ต่อกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว มีลักษณะพาดพิงฝ่ายไทย จึงขอเรียนชี้แจงให้สังคมได้ทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างเหมาะสม ในประเด็นสําคัญ ดังนี้
- ประการที่ 1 : จากการที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวว่า “ตาม MOU นี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษาสถานะเดิม จนกว่างานปักปันเขตแดนจะเสร็จสมบูรณ์” โฆษก ทบ. ชี้แจงว่า การที่นําข้อตกลงใน MOU มาอ้างเหตุการณ์ในขณะนี้ ก็ต้องย้อนไปดูฝ่ายกัมพูชาเองว่าทําตามข้อตกลงได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมากว่า 20 ปี กัมพูชาเป็นฝ่ายเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ ด้วยการสร้างบ้านเรือนและตั้งชุมชน ไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ หรือพื้นที่ที่อยู่ในกรอบเงื่อนไขข้อตกลง MOU เท่านั้น แต่ยังมีการรุกล้ําเกินเลยเข้ามากินพื้นที่ในอาณาเขตดินแดนประเทศไทย ทั้งที่พื้นที่ส่วนนี้ไม่ได้เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน
ซึ่งหากดูหลักฐานด้วยภาพถ่ายทางอากาศแล้วเปรียบเทียบระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่อย่างชัดเจนจากการละเมิดของฝ่ายกัมพูชา ฝ่ายไทยได้ดําเนินการประท้วงมาแล้วมากกว่า 500 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของ MOU ที่กําหนด แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขจากฝ่ายกัมพูชา และในทางกลับกัน พบว่าหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย มีกัมพูชารุกล้ําเข้ามาในเขตไทยอย่างชัดเจน เช่น พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ที่เข้ามาขุดคูติดต่อทางทหาร และพื้นที่ชุมชนใน จ.สระแก้ว ตามที่เกิดประเด็นความขัดแย้งในปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่านายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึง

- ประการที่ 2 : จากการที่กล่าวหาว่าฝ่ายไทยลากเส้นเขตแดนเอง จากพิกัดหลักเขตที่คณะกรรมการสํารวจหลักเขตร่วมทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้วนั้น โฆษก ทบ. กล่าวว่า เขตแดนไทย–กัมพูชาตลอดแนวนั้น ในส่วนที่ภูมิประเทศเป็นภูเขาจะใช้สันปันน้ําเป็นตัวแบ่ง ส่วนภูมิประเทศที่เป็นลักษณะที่ราบจะใช้หลักเขตแดนเชื่อมต่อกันเป็นตัวระบุเขตแดน ซึ่งจะไม่ค่อยมีความซับซ้อน หรือต้องอาศัยองค์ประกอบงานเทคนิคด้านแผนที่ขั้นสูงอย่างที่กล่าวอ้าง อาศัยแค่ความซื่อสัตย์และจริงใจ ตรงไปตรงมา ก็จะสามารถหาข้อสรุปในเรื่องเขตแดนสําหรับพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นพื้นราบได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งจะช่วยสามารถลดเวลาขั้นตอนการทํางานของคณะกรรมาธิการร่วมปักปันเขตแดนทางบก (JBC) ได้เป็นอย่างดี
โดยพิกัดหลักเขตตามแนวชายแดนทั้งหมด 74 หลักเขต ได้มีการสํารวจและบันทึกพิกัดโดยคณะกรรมการสํารวจหลักเขตร่วมของทั้งสองประเทศเรียบร้อยแล้ว และมีเอกสารระบุไว้อย่างชัดเจน ทั้งพิกัดหลักเขตที่เห็นตรงกันและเห็นต่างกัน ในส่วนที่เห็นต่างก็กลายเป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ซึ่งตาม MOU ได้ตกลงกันว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่ใด ๆ
ดังนั้น การที่กล่าวว่าฝ่ายไทยลากเส้นเขตแดนเองนั้นจึงไม่ถูกต้อง เพราะทางการกัมพูชาก็ทราบดีว่าหลักเขตใดอยู่พิกัดใด ส่วนเส้นตรงที่ลากเชื่อมต่อระหว่างหลักเขต ก็เป็นเส้นอ้างอิงที่ใช้ในการกําหนดเขตแดนตามหลักการในกรณีที่พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ราบ ไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายไทยวาดเส้นเขตแดนขึ้นเองตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
ในกรณีของหลักเขตที่ 42 ถึง 43 เมื่อลากเส้นตรงในแผนที่ เพื่อเชื่อมโยงตําแหน่งของหลักเขต 43 ที่คณะสํารวจของทั้งสองประเทศเห็นตรงกัน ไปยังตําแหน่งของหลักเขตที่ 42 ไม่ว่าจะเป็นในตําแหน่งที่กัมพูชากล่าวอ้าง หรือตําแหน่งที่ไทยกล่าวอ้างก็ตาม ก็จะพบว่ามีพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ซ้อนทับกันอยู่ และที่สําคัญที่สุด พื้นที่พิพาทบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงบริเวณบ้านหนองจาน ที่ฝ่ายไทยยืนยันต้องดําเนินการ ให้ชาวกัมพูชาย้ายออกไป ตามประกาศของ จ.สระแก้ว นั้น อยู่ในเขตดินแดนไทยชัดเจน ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายได้อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่
โฆษก ทบ. ยังได้กล่าวว่า ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไม่ได้เกิดขึ้นจากประชาชนทั้งสองประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพยายามจะสื่อ แต่เป็นการละเลยในการแก้ไขปัญหาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะหาทางออกข้อพิพาทเขตแดนกับกัมพูชาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้หลักสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ และเคารพต่ออธิปไตยบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน จึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มที่ด้วยเช่นเดียวกัน
ข่าว
30 ต.ค. 2568 16:26 133 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:58 140 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:45 85 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:32 142 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:30 85 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:25 96 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:22 138 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:02 95 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:31 105 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:22 137 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:02 280 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 13:20 108 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 12:12 145 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 12:03 128 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 11:48 157 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 11:31 145 views