 
  วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568
11 ต.ค. 2568 14:33 | 979 view
@juthamas
 
                    ไทยใช้สิทธิ์ตอบโต้กลางที่ประชุม UNHCR ExCom ยืนยัน “หนองจาน–หนองหญ้าแก้ว” เป็นดินแดนไทย ชี้กัมพูชาบิดเบือน–ปลุกปั่น และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
วันที่ 11 ตุลาคม 2568 - ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสํานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR ExCom สมัยที่ 76) เมื่อวันที่ 8  ต.ค.ที่ผ่านมา กลายเป็นสมรภูมิถ้อยแถลง เมื่อผู้แทนกัมพูชา นายดารา อิน ได้กล่าวปราศรัยพาดพิงประเทศไทย โดยอ้างว่า
“ชาวกัมพูชาจํานวนมากถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ที่อยู่อาศัยมาแต่บรรพบุรุษ” พร้อมระบุว่าเป็นการกระทําที่ “ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ เพิกเฉยต่อข้อตกลงทวิภาคี และละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติและอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4”  นายดารา กล่าวหาว่าฝ่ายไทยได้ “บังคับโยกย้ายพลเรือน ทําลายทรัพย์สิน และลงโทษหมู่” ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรม พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกเร่งช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และ “รื้อถอนรั้วและบังเกอร์ที่สร้างโดยฝ่ายไทยรอบพื้นที่ชุมชน” 

 เขายังกล่าวด้วยว่า “กัมพูชาได้ใช้ความยับยั้งชั่งใจ เคารพกฎหมาย และยึดมั่นในหลักความยุติธรรม มนุษยธรรมต้องไม่พ่ายแพ้ต่อการรุกราน”  นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณี ทหารกัมพูชา 18 นาย ที่อยู่ในความควบคุมของไทย โดยเรียกพวกเขาว่า “ตัวประกัน” และขอให้ประเทศสมาชิกช่วยผลักดันให้มีการปล่อยตัว โดยย้ําว่า “กัมพูชาจะไม่ยอมให้พันธะทางกฎหมายกลายเป็นเรื่องการเมือง”
เขายังกล่าวด้วยว่า “กัมพูชาได้ใช้ความยับยั้งชั่งใจ เคารพกฎหมาย และยึดมั่นในหลักความยุติธรรม มนุษยธรรมต้องไม่พ่ายแพ้ต่อการรุกราน”  นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณี ทหารกัมพูชา 18 นาย ที่อยู่ในความควบคุมของไทย โดยเรียกพวกเขาว่า “ตัวประกัน” และขอให้ประเทศสมาชิกช่วยผลักดันให้มีการปล่อยตัว โดยย้ําว่า “กัมพูชาจะไม่ยอมให้พันธะทางกฎหมายกลายเป็นเรื่องการเมือง”
ฝ่ายไทยโดย น.ส.ปรารถนา ดิษยทัต อุปทูตคณะผู้แทนถาวรประจําเจนีวา ใช้สิทธิ์ตอบโต้ทันที ระบุว่าเวทีพหุภาคีไม่ควรถูกใช้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพื่อผลทางการเมือง พร้อมชี้แจงเป็นข้อ ๆ ดังนี้
1) สถานะพื้นที่: ไทยยืนยันว่า “บ้านหนองจาน–บ้านหนองหญ้าแก้ว” อยู่ในดินแดนไทย เดิมพื้นที่ดังกล่าวมีที่พักพิงชั่วคราวตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1970–1980 เพื่อรองรับชาวกัมพูชาที่หนีสงคราม โดยผ่านการคัดกรองของ UNHCR ก่อนตั้งถิ่นฐานในประเทศที่สาม ภายหลังค่ายปิด ยังมีบางส่วนเข้ามาอยู่อาศัยและขยายชุมชน ซึ่งไทยได้ประท้วงอย่างเป็นทางการหลายครั้งแต่ กัมพูชาไม่ตอบสนอง
2) พฤติการณ์ยั่วยุ: ไทยระบุว่า “ล่าสุด” ฝ่ายกัมพูชากระตุ้นให้พลเรือนรวมถึงเด็ก สตรี และพระภิกษุ เข้าพื้นที่ เพื่อ เพิ่มความตึงเครียด ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยไทย กฎหมายภายใน และข้อผูกพันทวิภาคี รวมถึงขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนและอนุสัญญาเจนีวาฯ ฉบับที่ 4
3) เชลยศึก 18 นาย: ไทยย้ําว่าถูกจับกุมระหว่างการสู้รบที่ กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน อันเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ผู้ถูกคุมตัว ปลอดภัย ได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมสากล มี ICRC เข้าถึงเป็นประจํา และอํานวยความสะดวกในการติดต่อครอบครัว การคุมขังเป็นมาตรการป้องกันไม่ให้กลับไปสู่สนามรบ และจะ ส่งกลับ เมื่อการสู้รบสิ้นสุด
4) แนวทางการแก้ปัญหา: ไทยมองว่ากัมพูชายังคงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง และพยายามยกระดับเป็นประเด็นระหว่างประเทศแทนการใช้ กลไกทวิภาคี ที่ตกลงกัน ซึ่งทําให้เกิดข้อสงสัยในความสุจริตใจของกัมพูชา พร้อมย้ําว่าการปฏิบัติด้วยความสุจริตใจคือ “กุญแจ” ของการหารือในอนาคต
 
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 16:26 325 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:58 169 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:45 111 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:32 167 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:30 105 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:25 115 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:22 164 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:02 115 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:31 124 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:22 161 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:02 324 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 13:20 125 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 12:12 161 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 12:03 145 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 11:48 182 views
 
        ข่าว
30 ต.ค. 2568 11:31 167 views
 
           
          