วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568
26 พ.ย. 2568 15:10 | 38 view
@pracha
ศป.กฉ. โต้ข่าวเท็จ จมน้ําเสียชีวิต 80 ราย ระบุ มี 33 รายใน 7 จว.ใต้ แจง ฮ.ตกข่าวปลอม เปิดลงทะเบียนอาสาสมัครช่วยน้ําท่วมผ่าน “แอปทางรัฐ” รบ.ซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย ระบุ นายกฯลงพื้นที่ หวังไปแก้อุปสรรคหน้างาน สทนช.คาด 5 วันคลี่คลายลง
เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 26 พ.ย.2568 ที่ทําเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) แถลงภายหลังการประชุม ศป.กฉ. ว่า สถานการณ์น้ําภาพรวมปริมาณน้ําฝนที่เติมเข้ามามีปริมาณที่ลดน้อยลง แนวโน้มของน้ําในพื้นที่ภาคใต้มีแนวโน้มลดลง แต่อย่างไรก็ตาม บางจังหวัดที่ถัดออกไปจาก จ.สงขลาเริ่มมีการแจ้งเตือนแล้ว เช่น สตูล นครศรีธรรมราช บางจังหวัดได้มีการแจ้งอพยพตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ย.แล้ว ทั้งนี้ พบว่าหลังมีการแจ้งเตือนให้มีการอพยพ ยังมีประชาชนจํานวนหนึ่งที่ประมาทต่อสถานการณ์ คิดว่ายังไม่มีความจําเป็นต้องอพยพ ซึ่ง ศป.กฉ. มีความกังวลว่าหากแจ้งเตือนให้อพยพแล้ว ยังไม่เร่งรีบที่จะอพยพ อนาคตอาจจะเกิดความยากลําบากในการอพยพได้ ทาง ศป.กฉ.จึงสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ดําเนินการสํารวจกลุ่มเปราะบาง ไปเชิญชวนประชาชนให้ไปอยู่ในศูนย์พักพิงเลย เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดในอนาคต สําหรับแนวทางคือ ในทุกจังหวัดกรณีที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ศูนย์พักพิงจะมีการกําหนดจุดให้คนในพื้นที่ทราบก่อน ที่จะมีคําสั่งอพยพ ซึ่งจะดําเนินการเช่นนี้ทุกครั้ง

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า กรณีมีข่าวว่าโรงพยาบาลหาดใหญ่มีจํานวนผู้เสียชีวิต 80 คนนั้น ขอยืนยันว่าข้อมูลนั้นไม่ตรงกับความจริง โดยได้รับรายงานจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ว่า จํานวนผู้เสียชีวิตครึ่งหนึ่ง 40 คน เป็นผู้เสียชีวิตที่อยู่ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว 14 คน เป็นผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้มาจากสถานการณ์น้ําท่วม แต่เสียชีวิตจากการรักษาพยาบาล ดังนั้น ข้อมูลที่ออกมาไม่เป็นความจริง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ําท่วมภาคใต้ในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี และยะลา มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 33 คนใน 7 จังหวัด แบ่งเป็นนครศรีธรรมราช 9 ราย พัทลุง 4 ราย สงขลา 6 ราย ตรัง 2 ราย สตูล 2 ราย ปัตตานี 5 ราย และยะลา 5 ราย สาเหตุการเสียชีวิต เช่น ถูกน้ําพัด ไฟฟ้าช็อต ดินถล่ม ตกน้ํา และจมน้ํา ข้อมูลนี้ทาง ศป.กฉ.จะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบทุกวัน ขอวิงวอนถึงประชาชน ผู้ปรารถนาดี เกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ เพราะเป็นการสร้างความหวาดหวั่น ไม่เชื่อมั่น ทําลายขวัญและกําลังใจของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ขอให้ใช้ความระมัดระวัง ส่วนกระแสข่าวเฮลิคอปเตอร์ตกใกล้กับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ยืนยันไม่เป็นความจริง ตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่มีเหตุการณ์ ฮ.ตกแต่อย่างใด ตลอด 2-3 วันมีเฟคนิวส์มาก จึงขอความกรุณาในการเผยแพร่ข่าว ทั้งนี้ ทาง ศป.กฉ.ได้มีการรวบรวมข้อมูลผ่านระบบ AI เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีการส่งข้อมูลให้กับ ศป.กฉ.ส่วนหน้า และจะมีการอัปเดตให้ ศป.กฉ.ส่วนหน้าเป็นรายชั่วโมง
นายสิริพงศ์ กล่าวถึงกรณีการแชร์ว่าโรงพยาบาลประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและไฟดับว่า ทาง ศป.กฉ.ได้ประสานให้หน่วยงานนําเครื่องปั่นไฟไปติดตั้งให้โรงพยาบาล แต่ปัญหาคือ เรื่องการส่งอาหารที่ล่าช้าไป จากเดิมควรจะต้องส่งตอน 18.00 น.เย็น แต่เมื่อคืนวาน อาหารไปถึงตอน 20.00 น. ส่วนผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยวิกฤตย้ายออกมาหมดแล้ว ยังคงเหลือผู้ป่วยที่สามารถดูแลตามสถานการณ์ได้ เรายังคงมีการพูดคุยกันอย่างเมื่อวานไฟติด แต่ไม่เข้าใจว่าเจตนาผู้โพสต์ว่าไฟดับมาจากอะไร ยืนยันขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มีการบริหารจัดการเรื่องคิวในการส่งอาหารเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีกต่อไป

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ได้มีการเปิดศูนย์อํานวยการประสานงานธารน้ําใจไทยสู้กับอุทกภัย 2568 ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ ดอนเมือง ซึ่งจะอํานวยความสะดวกในทุกมิติ ผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดอาจจะไปรวมศูนย์เกี่ยวกับสิ่งของบริจาคที่ทางจังหวัดได้ และจังหวัดดําเนินการส่งต่อมาที่ศูนย์อํานวยการประสานงานธารน้ําใจฯ ส่วนผู้ที่อยู่ กทม. หากจะบริจาคสิ่งของเครื่องใช้จําเป็นสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์นี้ นอกจากประชาชนจะให้เป็นสิ่งของเครื่องใช้แล้ว เรายินดีที่จะรับการสนับสนุนช่วยเหลือในเรื่องของกําลังและทรัพยากร เช่น เจ็ตสกี สปีดโบ๊ท รถยนต์ยกสูง รถลากจูง อุปกรณ์กู้ภัย สิ่งของจําเป็นต่อการดํารงชีพ ลักษณะการช่วยเหลือเหล่านี้ หากต้องการได้รับการสนับสนุนทางศูนย์จะมีเครื่องบิน C 130 บินส่งให้ทุกวัน วันละ 5 รอบ ขณะเดียวกัน วันนี้ แอปพลิเคชัน ทางรัฐ จะเปิดให้ผู้ที่ต้องการจะเป็นอาสาสมัคร ไปร่วมทํางานกับกู้ภัยในพื้นที่ลงทะเบียน โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าน้ํามันในการเติมยานพาหนะ เพื่อปฏิบัติการในพื้นที่ ส่วนกู้ภัย อาสาสมัครที่ดําเนินการมาก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลจะมีลงทะเบียนย้อนหลังให้เพื่อเป็นการสนับสนุน
“สถานการณ์ครั้งนี้เป็นสถานการณ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าอาศัยทางภาครัฐอย่างเดียว กําลังอาจจะไม่เพียงพอ และอาจจะเกิดความล่าช้า ทําให้เกิดความเสียหายมาก อาสาสมัครเป็นสิ่งที่จําเป็นที่จะช่วยเหลือให้ทันสถานการณ์ แต่รัฐบาลไม่ได้ปล่อยให้ท่านเป็นอาสาสมัครแล้วไปสู้เพียงลําพัง รัฐบาลสู้ไปกับท่านด้วย ไปช่วยชาวใต้ด้วยกัน” โฆษก ศป.กฉ.ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายกฯเดินทางลงไปพื้นที่ จ.สงขลาวันเดียวกัน ลงไปจุดไหน และช่วยได้มากน้อยแค่ไหน นายสิริพงศ์ กล่าวว่า การเดินทางไปของนายกฯคือ การไปดูปัญหาอุปสรรคหน้างานว่า การประสานงานหน้างานมีการดําเนินการอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไรหรือไม่ มีข้อมูลส่วนไหนที่จะสามารถดําเนินการร่วมกันได้ เป็นเรื่องการบริหารจัดการเป็นหลัก เมื่อถามถึงกรณีดรามาระบุว่านายกฯอยู่ส่วนกลางดีกว่าลงพื้นที่ เพราะจะทําให้คนต้องมารอต้อนรับ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า หน้างานตรงนี้มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจําสํานักนายกฯ เป็นผอ.ศป.กฉ. ในการบูรณาการข้อมูลต่างๆ การที่นายกฯลงไป ไม่ได้เป็นภาระ ท่านไปคณะเล็ก ไม่ได้แจ้ง ไม่ได้มีนักข่าวตามไป และท่านไม่ได้มีความประสงค์แจ้งว่าจะต้องมีขบวนมาต้อนรับ แต่เป็นการไปปฏิบัติหน้าที่และดูถึงข้อจํากัด ถึงข้อกําหนดต่างๆ ว่าในการดําเนินการมีอุปสรรคอย่างไร เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า มีการคาดการณ์หรือไม่ว่าอีกกี่วันสถานการณ์น้ําจะลดลง นายสิริพงศ์ กล่าวว่า สทนช. คาดการณ์ว่า ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ภายใน 5 วัน สถานการณ์จะคลี่คลายไปกว่านี้มาก แต่อาจจะมีบางจุดที่เป็นแอ่งเล็ก เป็นพื้นที่ต่ําอาจจะลงไม่หมด แต่ในภาพรวมถ้าเทียบกับสถานการณ์วันนี้ จะเห็นว่าสถานการณ์เริ่มลดลงแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีทีมกู้ภัยถูกยิงปืนไล่ระหว่างช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ําท่วม นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้ว ประเด็นนี้มีหลายสาเหตุ บางสาเหตุแจ้งว่าอาจจะเป็นเพราะเรียกแล้วไม่ได้ยินก็เป็นได้ แต่ในความจําเป็นที่จะต้องมี ศป.กฉ. เนื่องจาก ศป.กฉ.จะรู้สถานการณ์หน้างานว่าควรจะมีข้อปฏิบัติอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่หาดใหญ่ตอนนี้ บางหน่วยงานเอาเรือหางยาวเข้าไปปรากฏว่าเรือหางยาวที่เข้าไปช่วงแรกคว่ําทุกลําเลย เพราะสู้แรงน้ําไม่ได้ นี่คือความจําเป็นที่จะต้องมีการพูดคุยกับ ศป.กฉ.ก่อน หรือแม้แต่ในการใช้ยานพาหนะบางอย่างในเขตชุมชน หรือคนที่อยู่ในตัวบ้านที่ไม่ได้อพยพออกมา ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง เข้าใจว่าทุกคนรีบหมด ในขณะที่ติดอยู่ในบ้านก็มีความทุกข์ร้อน ดังนั้น การบริหารสถานการณ์แบบนี้ในทุกฝ่าย จึงมีความสําคัญ
เมื่อถามถึงกรณีประชาชนติดอยู่ในพื้นที่ และไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า วันนี้ทาง กสทช.ได้รายงานให้ ศป.กฉ.ทราบว่า หลายจุดที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าไปเติมน้ํามันให้กับเครื่องปั่นไฟได้ สามารถดําเนินการได้แล้ว เมื่อถามว่า สถานการณ์วิกฤตขณะนี้ เป็นเพราะแผนอพยพในช่วงแรกไม่ดีใช่หรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า มีทั้งการทํางานภาคพื้น ซึ่งรัฐบาลยืนยันการทํางานในภาคพื้น มีการแบ่งเขตรับผิดชอบในการอพยพผู้คนอยู่ ยกตัวอย่าง บางกรณีในบางจังหวัดมีการแจ้งเตือนให้อพยพ แต่ประชาชนยังไม่อพยพ ซึ่งการอพยพคนมายังศูนย์พักพิงต่างๆ พอแบ่งโซนแล้วอาจจะมีตกหล่นอยู่ แต่ยืนยันว่าเรายังตามเก็บให้ครบทุกคน ดังนั้น ย้ําว่ามีการทํางานแบบภาคพื้นและการทํางานแบบออนไลน์
เมื่อถามการติดตามผู้สูญหายซึ่งไม่สามารถติดต่อได้ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า การติดต่อไม่ได้อาจจะมีหลายสาเหตุ เช่น บางคนติดอยู่ในพื้นที่แต่โทรศัพท์แบตเตอรี่หมด ซึ่งการสูญหายในลักษณะนี้ยังไม่สามารถตีได้ว่าเป็นการสูญหาย ยอมรับว่าติดต่อไม่ได้มีหลายเคส แต่ตัวเลขที่ได้รับการยืนยันว่าสูญหายแล้ว มี 1 ราย ที่ จ.สตูล
ข่าว
26 พ.ย. 2568 16:08 4 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 15:46 25 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 15:26 31 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 15:10 39 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 12:50 126 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 12:04 145 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 11:53 170 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 11:39 96 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 11:02 122 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 10:34 115 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 10:17 117 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 10:12 229 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 10:05 89 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 10:01 119 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 09:40 109 views
ข่าว
26 พ.ย. 2568 09:27 173 views